ฟอร์มสุกๆดิบๆของทีมท็อฟฟี่ หลังความพ่ายแพ้ในดาร์บี้แมตช์

เกมรุกคุณภาพของทีม ซิลวา

ภาพของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่ต้องยกมือขอโทษกองเชียร์ฝั่งทีมเยือนหลังความผิดพลาดในช่วงท้ายเกมของเขาส่งผลให้ เอฟเวอร์ตัน พ่ายแพ้ใน ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ครั้งที่ 232 ต่อ ลิเวอร์พูล ก็ได้สะท้อนให้เห็นภาพรวมของทีมที่แม้จะมีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายใต้ยุคของ มาร์โก้ ซิลวา แต่ผลงานในการเผชิญหน้ากับทีมระดับชั้นนำยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่องสำหรับพวกเขา หลังจบเกมบรรดาผู้เล่น ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ต่างพยายามปกปิดสายตาแห่งความผิดหวัง ในขณะที่ ลูกาส์ ดีญ เลือกที่จะปฏิเสธท่าทีปลอบใจจากเพื่อนๆนักเตะในสนามและมุ่งตรงเข้าสู่อุโมงค์ในทันที ประตูชัยในนาทีที่ 96 ของฝั่งเจ้าบ้านเป็นอะไรที่สุดขั้วเกินจะบรรยายและสร้างความเจ็บปวดอันสุดแสนสาหัสให้กับพวกเขา แอนฟิลด์ ยังคงเป็นสนามแข่งขันที่สร้างฝันร้ายให้กับทีมคู่ปรับร่วมเมืองอยู่เสมอ

เป็นความพ่ายแพ้ที่ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ

ผลการแข่งขันในนัดนี้ยังเป็นไปตามที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า มันจะเป็นเกมดาร์บี้ที่ยากลำบากที่สุดและห่างไกลจากประสบการณ์ครั้งแรกของเขาในการพาทีมถล่ม เอฟเวอร์ตัน 4-0 ในยุคของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ที่กุนซือฝั่งทีมเยือนถึงกับออกมายอมรับในภายหลังว่าเป็นความพ่ายแพ้ที่ไม่มีทางสู้เลย แต่เกมนี้เป็นการขับเคี่ยวที่เริ่มต้นตั้งแต่นาทีแรกไปจนถึงนาทีที่ 96 จนกระทั่ง ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษ ตัดสินใจพลาดในการตะปบบอลจากจังหวะหวดผิดเหลี่ยมของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่น่าจะเลยข้ามเส้นออกไปให้กลับมาตกลงบนคานประตูก่อนจะไปเข้าทางปืนของ ดิว็อค โอริกี้ ที่ได้โหม่งจ่อๆไม่มีเหลือ ทันทีที่ หัวหอกทีมชาติเบลเยี่ยม ผู้ตกเป็นข่าวย้ายทีมกับ เอฟเวอร์ตัน ในช่วงต้นปีหน้ายิงประตูได้ในช่วงท้ายเกม ก็ทำให้เจ้านายของเขาที่อัดอั้นมาตลอดทั้งเกมออกอาการหลุดและวิ่งลงไปแสดงความดีใจในสนาม หลังมั่นใจว่าทีมของเขาจะยังคงทำแต้มไล่จี้ แมนฯ ซิตี้ อยู่ที่ 2 คะแนนดังเดิม ซึ่งหนสุดท้ายที่ เอฟเวอร์ตัน สามารถบุกมาเอาชนะคู่แข่งที่ แอนฟิลด์ ได้ก็ต้องย้อนไปจนถึงปี 1999 ดังนั้นความพ่ายแพ้ในเกมนี้ก็อาจไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจมากนัก

พิคฟอร์ด เริ่มต้นและปิดฉากเกม ดาร์บี้ แมตช์ ด้วยความประมาท จากการเคลียร์บอลออกไปได้อย่างหวุดหวิดในช่วงต้นเกมหลังถูกคู่แข่งบีบเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ก่อนจะทำผลงานระหว่างเกมได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งรวมไปถึงจังหวะเซฟสำคัญจากลูกหลุดเดี่ยวของ เซอร์ดาน ชากิรี่ แต่สุดท้ายความดีทั้งหลายทั้งปวงที่ผ่านมาก็ถูกลืมเลือนไปหมดสิ้นหลังเจ้าตัวคือต้นเหตุในการหยิบยื่น 3 คะแนนให้กับ หงส์แดง แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอดระยะเวลา 5 เดือนภายใต้การทำงานของ ซิลวา จะทำให้ เอฟเวอร์ตัน สามารถยกระดับขึ้นมาได้อย่างชัดเจน แต่ทีมยังคงไร้วี่แววแห่งชัยชนะในการฟาดฟันกับคู่ต่อสู้ระดับบิ๊ก 6 ที่จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับพวกเขาในการต่อสู้กับทีมที่เหลือใน พรีเมียร์ลีก มันคือปัญหาหลักที่ยังยากจะผ่านพ้นไปได้สำหรับกุนซือทีมท็อฟฟี่คนปัจจุบัน และยังกลายเป็นความหลอกหลอนผู้เล่นภายในทีมโดยเฉพาะกับภารกิจอันท้าทายที่ แอนฟิลด์

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตัน สามารถคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งระดับหัวแถวได้เพียง 5 ครั้งเท่านั้นจากการลงสนาม 64 นัดในฐานะทีมเยือน โดยเป็นการพ่ายแพ้ทั้งหมด 36 ครั้งและเสมอไป 23 ครั้ง ชัยชนะนอกบ้านหนหลังสุดเหนือทีมในกลุ่มบิ๊ก 6 ก็คือการบุกไปสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ในเดือนธันวาคม 2013 และมันยังเป็นชัยชนะหนแรกในรอบ 26 ปีที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกด้วย ในขณะที่ผ่านมานานถึง 8 ปีจากการบุกไปคว้าชัยที่ แมนฯ ซิตี้, 10 ปีกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, 19 ปีกับ ลิเวอร์พูล, 22 ปีกับ อาร์เซน่อล และ 24 ปีกับ เชลซี แม้ในเกมล่าสุดพวกเขาจะสร้างโอกาสจะแจ้งได้ถึง 2-3 ครั้งในช่วงครึ่งเวลาแรก แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีพอที่จะหยุดสถิติอันเลวร้ายจากการออกไปเป็นทีมเยือนได้

เป็นความพ่ายแพ้ที่ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ

เกมรุกคุณภาพของทีม ซิลวา

ทีมของ ซิลวา พยายามทำเกมได้อย่างสร้างสรรค์ พวกเขาเข้าโจมตีได้อย่างมีจุดหมายและเปี่ยมไปด้วยคุณภาพภายในจังหวะเกมอันรวดเร็วของ ดาร์บี้ แมตช์ อันที่จริง เยอร์รี่ มิน่า ควรจะเป็นผู้ใส่สกอร์แรกได้ด้วยลูกโหม่งจากจังหวะเปิดฟรีคิกของ ดีญ ตั้งแต่นาทีที่ 4 เนื่องจาก กองหลังชาวโคลัมเบีย สามารถสลัดการประกบของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จนมีโอกาสได้โขกแบบโล่งๆแต่กลับส่งบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

ในขณะที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ก็มาปฏิเสธลูกโหม่งในระยะเผาขนของ อันเดร โกเมส โดยที่ โจ โกเมซ ยังตามมาช่วยสกัดบอลออกจากเส้นได้แบบหวุดหวิดจากจังหวะเข้าซ้ำในอีกเสี้ยววินาทีต่อมาหลังเวลาผ่านพ้นไปจนถึงนาทีที่ 21 และนั่นก็เป็นเพียงจุดด่างพร้อยเล็กๆภายใต้การโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมในเกมนี้ของมิดฟิลด์ที่ถูกยืมตัวมาจาก บาร์เซโลน่า ภายหลังการเปิดตัวอันเชื่องช้าจากที่พึ่งได้ลงเล่นในเกมที่พบกับ คริสตัล พาเลซ เมื่อเดือนตุลาคม โดยที่ โกเมส ก็ค่อยๆปรับตัวและเริ่มโชว์ความเยือกเย็นในสนามออกมาให้เห็น

ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส คือหนึ่งในขุมกำลังหน้าใหม่ภายใต้การสร้างทีมของ ซิลวา และ มาร์เซล แบรนด์ส ผอ.ฟุตบอลคนล่าสุดของ เอฟเวอร์ตัน ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยความมุ่งหวังที่จะเสริมสร้างความสมดุลและยกระดับคุณภาพโดยรวมให้กับสโมสร มันยังเป็นความหวังที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของตนเองภายหลังช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำจากอาการบาดเจ็บรบกวนและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับ บาร์เซโลน่า และการสร้างผลงานอันน่าประทับใจภายในรั้ว กูดิสัน พาร์ค ก็คือโอกาสสำคัญสำหรับเส้นทางการค้าแข้งของอดีตกองกลาง บาเลนเซีย แม้ภายในสัญญายืมตัวเป็นระยะเวลา 12 เดือนของเขาจะไม่ได้ระบุเงื่อนไขการซื้อขาดเอาไว้ด้วย แต่มันก็มีสิทธิ์จะกลายเป็นสถานการณ์ที่น่าจับตามองภายในเดือนมกราคมปีหน้า และบางทีความทุกข์ระทมจากการพ่ายแพ้ในลักษณะนี้ของ เอฟเวอร์ตัน ก็อาจจะค่อยๆคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ฟอร์มสุกๆดิบๆของทีมท็อฟฟี่หลังความพ่ายแพ้ในดาร์บี้แมตช์