เรอัล มาดริด ! กับภารกิจใหญ่ที่ พี่แจ้ จะต้องพยายามผลักทีมจนเข้าวิน

เรอัล มาดริด ! กับภารกิจใหญ่ที่ พี่แจ้ จะต้องพยายามผลักทีมจนเข้าวิน

“ความสำเร็จ” คือเป้าหมายโดยธรรมชาติสำหรับทีม เรอัล มาดริด มาโดยตลอด !นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมานี้ มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับแฟนบอลที่จะยอมรับว่า เรอัล มาดริด ที่ได้ชื่อว่าเป็นสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลับล้มเหลวในการจะคว้าแชมป์รายการสำคัญๆมาครองได้ทั้งโทษแบน อาการเหนื่อยล้าสะสมจากนักเตะ เริ่มเล่นบอลกันแบบไร้แรงบันดาลใจ เราได้เห็นทุกสิ่งที่เราพูดจากเหล่าแข้ง “ราชันย์ชุดขาว” มาตลอดฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับทุกสิ่งที่เราเคยเห็นมาตลอดจากทีม เรอัล มาดริด ที่ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์ยุโรป 13 สมัยนักเตะที่พอจะพยุงทีมให้ก้าวไปข้างหน้าได้นั้น เห็นว่าจะมีเพียง คาริม เบนเซม่า เท่านั้นที่พอจะทำให้แฟนบอลได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อันมืดมิดได้ ส่วนนักเตะซีเนียร์ที่มีประสบการณ์สูงรายอื่นๆเช่น อิสโก้ และ เอเด็น อาซาร์ กลับล้มเหลวในการสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลได้เห็นในขณะที่ แกเร็ธ เบล ก็ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่มีกระทั่งตำแหน่งตัวจริงในทีมด้วยซ้ำในยุคที่ ซีเนอดีน ซีดาน เป็นคนคุมทีม มันเลยทำให้เขาต้องทำการย้ายกลับใช้ชีวิตในอังกฤษในฤดูกาลที่แล้ว โดยไปเล่นแบบยืมตัวกับ สเปอร์สการแสดงผลงานที่น่าปวดหัวของทีมยักษ์ใหญ่แห่งลีกสเปนในฤดูกาลที่แล้ว ยิ่งเล่นก็ยิ่งดูน่าหดหู่ใจ แต่กระนั้นแล้วสิ่งที่ทำให้แฟนบอลพอจะยิ้มได้บ้างนอกเหนือจากการเล่นของ เบนเซม่า นั่นก็คือการเล่นของ วินิซิอุส จูเนียร์ ปีกดาวรุ่งแซมบ้าอีกรายแต่เพราะด้วยการจากไปของซีเนอดีน ซีดาน และการมาถึงของ คาร์โล อันเชล็อตติ สิ่งต่างๆ ดูแตกต่างออกไปอย่างชัดเจน

เมื่อการกลับมาของพี่แจ้ มันช่วยชีวิตทีมไว้ได้จริงๆ

เมื่อการกลับมาของพี่แจ้ มันช่วยชีวิตทีมไว้ได้จริงๆ

ถ้าหากคุณยังจำช่วงเวลาสมัยที่ อันเชล็อตติ เคยคุมทีมเรอัล มาดริด ครั้งแรกในปี 2013-2015 นี่คือชายระดับตำนานผู้ที่สามารถทำการพัฒนาการเล่นของ อิสโก้ จนกลายเป็นตัวสร้างสรรค์เกมรุกระดับตัวหลักของทัพ “ลอส บลังโกส์” มาแล้วและนอกจากนี้ เขายังเป็นคนสั่งให้มาดริดซื้อ เบล มาอยู่กับทีมแบบทำลายสถิติโลกได้ และตอนนี้ดูเหมือนว่าฟอร์มการเล่นของเบล จะกลับมาดีอีกครั้งเหมือนสมัยที่เขาร่วมงานกับอันเชล็อตติเป็นครั้งแรกเลยด้วยการเติมพลังใจจากโค้ช จากแฟนบอล เสริมทัพแบบสุดกำลังเพื่อหวังจะนำความสำเร็จกลับมาสู่ทีมให้ได้ แต่เหมือนว่าพวกเขาจะได้ผลตอบแทนที่ดีมากเลยทีเดียว เมื่อตอนนี้ เรอัล มาดริด ได้เห็นแล้วว่าตัวเองกำลังเป็นจ่าฝูงของลาลีกา หลังจากผ่านไปสามเกม มันได้แสดงสัญญาณให้เห็นเลยว่า พวกเขากำลังมั่นใจในการเล่น มีไหวพริบในการเล่นเกมรุกและมีความเฉียบขาดในการยิงประตูรวมไปถึงความแข็งแกร่งในแนวรับก็ยังดีเหมือนเดิม มันผสานกันได้อย่างลงตัวชนิดที่สมกับที่แฟนบอลรู้สึกวว่าคุ้มค่า กับการที่ได้เห็นอันเช่กลับมาคุมทีมเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม นั่นก็ยังไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม นั่นก็ยังไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของพวกเขา

เพราะเรอัล มาดริด ยังดีได้มากกว่านี้ อย่างน้อยๆนักเตะในทีมก็เล่นบอลได้ดูมีอนาคตมากขึ้นจริงๆภาระความรับผิดชอบของ เบนเซม่า ดูลดลงไปมาก หลังจากที่ อาซาร์ ที่ดูเหมือนจะกลับมาฟิตอีกครั้ง ก็พร้อมที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าการเล่นบอลแบบพลิกแพลงไปมาได้ดั่งใจจากเขานั้น มันช่วยเบนเซม่าได้อย่างคาดไม่ถึงในขณะที่ เบล ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากอันเชล็อตติเช่นเดิม ก็กลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง แถมอันเช่ ยังยกระดับการเล่นของ วินิซิอุส ที่มีพรสวรรค์อยู่แล้ว ให้พัฒนาจากการเป็นนักเตะที่มีดีแต่เลี้ยงบอล ให้เริ่มมีทักษะในการจบสกอร์ที่คมขึ้นด้วยอีก แค่นี้มาดริดก็เหมือนเสือติดปีกแล้วในขณะเดียวกัน อิสโก้ ก็ดูจะกลายเป็นผู้เล่นที่แตกต่างไปจากเดิม เราได้เห็นเขาเล่นบอลได้แบบมีจินตนาการอีกครั้ง เล่นบอลด้วยความคิดสร้างสรรค์ เลี้ยงบอลได้ลื่นไหล คอนโทรลบอลได้อย่างนุ่มนวล แม้ว่าจะถอยลงไปเล่นในแนวลึกกว่าเดิมและควบคู่ไปกับความปราดเปรียวของ เฟเด้ บัลเบร์เด้ ที่ลงเล่นร่วมกับอิสโก้ ไม่น่าเชื่อว่าทั้งคู่เล่นบอลได้เข้าขากันมาก ทำให้แฟนบอลหายห่วงเลยในยามที่ทีมยังขาดทั้ง ลูก้า โมดริช และ โทนี่ โครสตอนนี้มาดริดติดเครื่องแล้ว พวกเขาจะกลายเป็นทีมเต็งแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ แต่ทุกอย่างก็ยังอีกยาวไกล เราต้องดูกันต่อไป