ค้นประวัติ เดอะ เชอร์รีส์ เอเอฟซี บอร์นมัธ [A.F.C. Bournemouth]

ค้นประวัติ เดอะ เชอร์รีส์ เอเอฟซี บอร์นมัธ [A.F.C. Bournemouth]

สโมสรฟุตบอลบอร์นมัธ เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในบอร์นมัธ ปัจจุบันเล่นอยู่ในลีกพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี 1980 มีสนาม ดีน คอร์ต เป็นสนามเหย้า และใช้เสื้อสีแดง ดำ, กางเกงและถุงเท้าสีดำ เป็นชุดของสโมสรบอร์นมัธ เคยได้แชมป์ฟุตบอลดิวิชั่น 2 และดิวิชั่น 3 ของอังกฤษ เคยได้รองแชมป์ในดิวิชั่น 42 ครั้ง ในระดับภูมิภาคเคยได้แชมป์ฟุตบอลลีกและฟุตบอลถ้วยในระดับดิวิชั่น 3 บอร์นมัธใช้เวลาส่วนใหญ่ลงแข่งอยู่ในระดับดิวิชั่น 3 และดิวิชั่น 4 ภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ในฤดูกาล 2015-16 เขาช่วยให้บอร์นมัธเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษหรือพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ปัจจุบันมี แม็กซิม เดมิน มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เป็นเจ้าของสโมสร

ประวัติศาสตร์

บอสคอมบ์ เอฟซี

แม้ว่าจะไม่ปรากฏแน่ชัดว่าสโมสรก่อตั้งขึ้นเมื่อไหร่ แต่ก็มีหลักฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 1899 ในชื่อ บอสคอมบ์ เซนต์ จอห์น หรือในชื่อ บอสคอมบ์ เอฟซี โดยมีประธานสโมสรคนแรกคือ เจ. ซี. ณัฏฐ์ ในฤดูกาล 1899-00 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกของพวกเขา พวกเขาลงเล่นในรายการ Hants Junior Cup โดยใช้ สนามคัตเติ้ลเมน อเวนิว จนกระทั่งฤดูกาล 1905-06 พวกเขาก็ได้ลงเล่นในลีกสมัครเล่นระดับ senior ฤดูกาล 1913-14 สโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขันเอฟเอคัพ รายการแข่งขันได้ถูกหยุดลงเนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1920 บอสคอมบ์ ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่น Southern League

บอร์นมัธและบอสคอมบ์ แอธเลติก เอฟซี

ในปี 1923 บอร์นมัธและบอสคอมบ์ แอธเลติก เอฟซี ได้รวมทีมกันเพื่อเป็นตัวแทนเขต และในปีเดียวกันนี้ ก็ได้ลงเล่นในฟุตบอลลีกที่จัดขึ้นใหม่ก็คือ ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 3 โดยในนัดแรก พวกเขาลงเล่นในวันที่ 25 สิงหาคมปี 1923 และแพ้ต่อ สวินดอน ทาวน์ ไป 3 ประตูต่อ 1 และแต้มแรกที่ได้ในการแข่งขันเกิดจากการเสมอกับ ดีน คอร์ต 0 ประตูต่อ 0 ในช่วงเริ่มต้นของฟุตบอลลีก ทีมบอร์นมัธเป็นไปอย่างยากลำบาก ส่วนใหญ่พวกเขาจะลงเล่นอยู่ในดิวิชั่น 3 พวกเขาต้องรอจนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงจะประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์แรก โดยชนะต่อ วอลซอลล์ ในฟุตบอลถ้วยดิวิชั่น 3 โซนภาคใต้ ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์

เอเอฟซี บอร์นมัธ

ภายใต้การคุมทีมของ จอห์น บอนด์ สโมสรได้เปลี่ยนชื่อที่เป็น เอเอฟซี บอร์นมัธ พร้อมทั้งได้เปลี่ยนสัญลักษณ์ของทีมใหม่ โดยสีพื้นหลังเป็นสีของเสื้อที่ใช้แข่งขัน และสัญลักษณ์ด้านหน้าเป็นรูปผู้เล่นกำลังโหม่งลูกฟุตบอล เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ ดิกกี้ ดาว์เซตต์ ที่เป็นดาวซัลโวของทีมในช่วงปี 1950 ถึงปี 1960 สาเหตุที่พวกเขาใช้ชุดสีแดงดำนั้น ได้แบบมาจากทีมเอซีมิลาน

ปลายศตวรรษที่ 20

เดือนมกราคมปี 1984 ภายใต้การคุมทีมของ แฮร์รี่ เรดแนปป์

เดือนมกราคมปี 1984 ภายใต้การคุมทีมของ แฮร์รี่ เรดแนปป์ พวกเขาสามารถเอาชนะแชมป์เก่าฟุตบอลเอฟเอคัพ อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ในฟุตบอลเอฟเอคัพ เรดแนปป์ช่วยให้บอร์นมัธเลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 2 ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เขาเข้ามาคุมทีมโดยได้แชมป์ลีกดิวิชั่น 3 ในปี 1987 ฤดูกาลแรกพวกเขาลงเล่นอย่างยากลำบากในดิวิชั่น 2 ในฤดูกาล 1988-89 พวกเขาก็เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ในดิวิชั่น 1 หลังจากทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในฤดูกาลแรก พวกเขาจบด้วยอันดับที่ 12 ซึ่งเป็นอันดับที่สูงที่สุดที่ทำได้ในฟุตบอลลีกจนกระทั่งฤดูกาล 2013-14

วันที่ 5 พฤษภาคมปี 1990 นัดสุดท้ายของฤดูกาล 1989-90 ลีด ยูไนเต็ดได้แชมป์ดิวิชั่น 2 และเลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 หลังเอาชนะบอร์นมัธได้ที่ดีน คอร์ต ในทางกลับกันบอร์นมัธตกชั้น แฮร์รี่เรดแนปป์ ยังคงอยู่กับทีมอีก 2 ฤดูกาล แต่ด้วยปัญหาทางการเงินทำให้เขาออกจากทีมไปในฤดูกาล 1991-92 และทางสโมสรได้แต่งตั้ง โทนี่ พูลิส มาเป็นผู้จัดการทีมแทน เขาได้ใช้เงินในการทำทีมน้อยมาก ส่งผลให้ทีมได้อันดับที่ 17 ของตาราง โทนี่ พูลิส ก็ออกจากสโมสรไปได้ปัญหาทางการเงินเช่นกัน

ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 1994-95 พวกเขาลงเล่นด้วยการไม่มีผู้จัดการทีม ทำให้ทีมหล่นลงไปอยู่ในด้านท้ายของตารางคะแนน หลังผ่านครึ่งฤดูกาลแรก สโมสรก็ได้แต่งตั้ง เมล มาชิน เป็นผู้จัดการทีม แต่ด้วยการเข้ามาทำทีมช้าเกินไป ทำให้บอร์นมัธไม่สามารถหนีรอดพ้นการตกชั้นได้ มาชิน ใช้เวลา 6 ฤดูกาลในการเปลี่ยนแปลงทีม แต่ก็ไม่ช่วยให้ทีมมีโอกาสลุ้นแชมป์แต่อย่างใด จนกระทั่งฤดูกาล 1998-99 พวกเขาเข้าถึงรอบเพลย์ออฟ แต่ก็ไม่สามารถผ่านไปได้ และจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 7 ของตารางคะแนน อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 1999-00 พวกเขาได้อันดับที่ 16 จากผลงานที่ตกต่ำของทีม ทำให้ มาชิน ถูกย้ายไปเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลแทน

ช่วงต้นศตวรรษที่ 21

ฌอน โอ ดริสคอลล์ ผู้จัดการทีมระดับเยาวชน ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีม แทนที่ เมล มาชิน และเริ่มคุมทีมในฤดูกาล 2000-01 ในฤดูกาลแรกที่เขาคุมทีม ทีมไม่สามารถเข้ารอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นได้ และในฤดูกาลที่ 2 พวกเขาก็ตกชั้น แต่พวกเขาก็ได้เลื่อนชั้น หลังจบฤดูกาล 2002-03 และเป็นทีมแรกที่สามารถยิงถึง 5 ประตูได้ในรอบเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศ ที่สนามมิลเลเนี่ยม สเตเดี้ยม จนกระทั่งเดือนกันยายนปี 2006 หลังจากการลงเล่นในลีกเดิมกว่า 8 ปี ฌอน โอ ดริสซอลล์ ก็ย้ายไปคุมทีม ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส และสโมสรได้แต่งตั้ง เควิน บอนด์เป็นผู้จัดการทีมแทน

การบริหารทีมยุคตกต่ำ (2008–2009)

เดือนกุมภาพันธ์ปี 2008 สโมสรถูกปรับ 10 คะแนน เนื่องจากปัญหาหนี้สินของสโมสร หลังจบฤดูกาลนั้น พวกเขาก็ต้องตกชั้นไปสู่ดิวิชั่น 2 ในฤดูกาล 2008-09 พวกเขาโดนสั่งห้ามลงแข่งในลีกดิวิชั่น 2 หากไม่สามารถจัดการปัญหาด้านการเงินได้สำเร็จ หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการบริหารและเจ้าของทีม สโมสรสามารถจัดการด้านการเงินและแผนการชำระหนี้ได้สำเร็จ ทำให้สโมสรสามารถลงแข่งได้ในที่สุด ในช่วงท้ายฤดูกาล 2008-09 พวกเขาไปเยือนมอร์แคมบ์ และเอาชนะได้ 4 ประตูต่อ 0 ซึ่งเป็นชัยชนะที่ดีที่สุดในรอบ 30 ปีของทีม เดือนมิถุนายนปี 2009 กลุ่มทุนของ อดัม เมอร์รี่ ประสบความสำเร็จในการเข้ามาควบคุมกิจการของสโมสร

เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก (2009–2015)

เอ็ดดี้ ฮาว เข้ามาคุมทีมเต็มตัวในฤดูกาลแรก

เอ็ดดี้ ฮาว เข้ามาคุมทีมเต็มตัวในฤดูกาลแรก และช่วยให้ทีมคว้าอันดับที่ 2 ในดิวิชั่น 2 เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ แต่หลังจากจบฤดูกาล เขาก็ออกไปคุมทีมเบิร์นลี่ย์ และผู้ช่วยของเขา ซึ่งเป็นอดีตนักเตะของทีมอย่าง ลี แบร็ดเบอร์รี ช่วยให้ทีมเข้าถึงรอบเพลย์ออฟในดิวิชั่น 1 แต่ก็ไม่สามารถเลื่อนชั้นได้ ในฤดูกาล 2011-12 พวกเขาได้อันดับที่ 11 ของตารางคะแนน ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล บอร์นมัธได้แต่งตั้งโค้ชเยาวชนของทีมเป็นผู้จัดการทีมคือ พอล โกรบส์

โกรบส์เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงทีมในช่วงเริ่มฤดูกาล 2012-13 แต่เขาก็ถูกไล่ออกในเดือนตุลาคมปี 2012 หลังจากไม่สามารถนำทีมไปในทิศทางที่ดีได้ เอ็ดดี้ ฮาว ได้ถูกแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมอีกครั้ง ไม่เพียงเขาจะช่วยให้บอร์นมัธรอดพ้นจากการตกชั้นเท่านั้น แต่เขายังช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นสู่แชมเปี้ยนชิพได้สำเร็จ และในฤดูกาลแรกที่เลื่อนชั้น พวกเขาสามารถเอาชนะทีมจากพรีเมียรลีกอย่าง ลิเวอร์พูล ได้ในฟุตบอลเอฟเอคัพ และจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 10 ซึ่งถือเป็นอันดับสูงที่สุดตั้งแต่พวกเขาลงเล่นในฟุตบอลลีก

วันที่ 25 ตุลาคมปี 2014 บอร์นมัธเอาชนะทีมเบอร์มิงแฮม ที่สนามเซนต์แอนดรูว์ 8 ประตูต่อ 0 ซึ่งเป็นการยิงถึงไปประตูครั้งแรกในฟุตบอลลีก และเป็นชัยชนะที่มากที่สุดของทีมในเวลานั้น ในฤดูกาล 2014-15 ในการแข่งขันนัดสุดท้ายบอร์นมัธเอาชนะทีมชาร์ลตัน แอตแลนติก 3 ประตูต่อ 0 ทำให้ทีมมีคะแนนมากพอที่จะเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ

พรีเมียร์ลีก(2015–ปัจจุบัน)

บอร์นมัธลงเล่นนัดแรกในเกมลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ

บอร์นมัธลงเล่นนัดแรกในเกมลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ ด้วยการแพ้ต่อแอสตัน วิลล่า 1 ประตูต่อ 0 ในวันที่ 8 สิงหาคมปี 2015 ในช่วงต้นฤดูกาล 2015-16 ทีมประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บมากมาย แต่ถึงอย่างไรก็ตามในฤดูกาลนั้น พวกเขาก็สามารถจบระดับที่ 16 ทำให้ทีมยังอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้อีกหนึ่งฤดูกาล ในฤดูกาลที่ 2 พวกเขาต้องประสบความลำบากอย่างมากมายในการหนีการตกชั้น จนกระทั่ง 5 นัดสุดท้ายก่อนจะจบฤดูกาล พวกเขาทำได้ถึง 11 คะแนนจากทั้งหมด 15 คะแนน ช่วยให้ทีมรอดตกชั้นในที่สุด ฤดูกาลที่ 3 ของพรีเมียร์ลีก เอ็ดดี้ ฮาว เสริมตัวผู้เล่นเข้ามาในทีมมากมาย และช่วยยกระดับทีมได้มากขึ้น หลังฤดูกาลนั้น พวกเขาได้อันดับที่ 12