บอลเกมรับมันล้าสมัยไปแล้วจริงหรือ

บอลเกมรับมันล้าสมัยไปแล้วจริงหรือ

ช่วงนี้เรียกว่ากำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนักว่าการวางแผนฟุตบอลสมัยใหม่ควรต้องทำอย่างไรดี ด้วยในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าทีมที่ประสบความสำเร็จมักเป็นทีมที่เน้นการตั้งรับแล้วรอสวนกลับเพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ตนเองต้องการ ยกตัวอย่างตั้งแต่สมัย โซเซ่ มูรินโญ่ พา ปอร์โต้ ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือ กรีซ สร้างเทพนิยายในการคว้าแชมป์ยูโรมาครองได้สำเร็จ ทว่านั่นคือช่วงเวลาที่ผันผ่านไป เมื่อยุคใหม่ที่เกิดขึ้นนี้การเล่นเกมรับอาจไม่ใช่คำตอบของฟุตบอลอีกแล้ว

กุนซือผู้เล่นสไตล์เปิดหน้าเล่นเกมรุก

หากให้ยกตัวอย่างกุนซือที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ชื่อของ ซีเนอดีน ซีดาน , เป๊ป กวาร์ดิโอล่า , อันโตนิโอ คอนเต้ หรือ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ สิ่งหนึ่งที่พวกเขาเหมือนกันมาก ๆ คือ เป็นกุนซือผู้เล่นสไตล์เปิดหน้าเล่นเกมรุกบุกแหลกแล้วแจกโชคให้ฝ่ายตรงข้าม ว่ากันง่าย ๆ คือ กุนซือพวกนี้ถอยหลังไม่เป็น เพราะถ้าถอยเมื่อไหร่ มีอย่างเดียวคือถอยลงคลอง ทว่าด้วยปรัชญาการทำทีมของพวกเขาดันกลายเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นพร้อมมองเห็นอย่างเป็นรูปธรรม คราวนี้พอย้อนกลับมาดูบรรดากุนซือรถบัสที่เน้นเล่นเกมรับทั้งหลายอย่าง โซเซ่ มูรินโญ่ มันเป็นภาพที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ารูปแบบการเล่นของเขามันไม่สมัยนิยมอีกต่อไปแล้ว ในทางกลับกันมันยิ่งทำให้คนดูน่าเบื่อหน่ายเข้าไปใหญ่กับการต้องมานั่งดูทีมรอโดนเพียงอย่างเดียว

เรื่องนี้จริง ๆ มันไม่มีใครผิดหรือถูกกับศาสตร์ในการทำทีมฟุตบอล เพียงแค่ช่วงเวลาที่กุนซือคนนั้นประสบความสำเร็จ มันไม่ได้มีตลอดเวลา หากย้อนกลับไปดูบรมกุนซือทั้งหลาย เช่น เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน , อ็อตมาร์ ฮิตเฟลด์ หรือแม้แต่ อาร์แซน เวนเกอร์ ก็ตาม เราจะเห็นว่าพื้นฐานของกุนซือเหล่านี้คือการเล่นเกมรุกทั้งสิ้น นั่นจึงพอสรุปได้ว่าจริงแล้วการทำทีมฟุตบอลมันไม่ได้มีตรรกะอะไรตายตัวมากนัก เพียงแค่การเล่นเกมรุกมันทำให้มีโอกาสในการทำประตูมากกว่า เมื่อโอกาสทำประตูมาก นั่นหมายถึงโอกาสเป็นผู้ชนะก็มากขึ้นตามไปด้วยเท่านั้นเอง

กุนซือผู้เล่นสไตล์เปิดหน้าเล่นเกมรุก

พวกเราในฐานะของแฟนบอลคนหนึ่งคงไม่ได้มีใครเก่งไปกว่ากุนซือทุกคน เพียงแต่แค่รู้สึกลึก ๆ ภายในใจทำนองว่าในเมื่อการเล่นเกมรับมันเป็นวิธีที่ทำให้บางทีมประสบความสำเร็จ แต่กับหลาย ๆ ทีมมันเอามาใช้ไม่ได้ จะด้วยปัจจัยใดก็ตาม คนเป็นกุนซือควรมีการปรับแท็กติกให้เข้ากับการแข่งขันที่ตนเองต้องเผชิญหน้าด้วยเหมือนกัน