บรูโน กิมาไรส์ จอมทัพโนเนมผู้สร้างชื่อให้กับลียงอย่างสง่างาม

ไม่ใช่นักเตะคนแปลกหน้าในตลาดนักเตะฝั่งพรีเมียร์ลีก

กิมาไรส์ เดิมทีเป็นนักเตะโนเนม และกว่าจะได้มีชื่อลงเล่นให้กับทีมชาติบราซิล มันก็ปาเข้าไปตอนที่เขาอายุ 21 ปีแล้ว แต่ก็เป็นช่วงอายุของนักเตะในแดนละตินที่บรรดาทีมจากทั่วยุโรป จะเริ่มให้ความสนใจ ซึ่งในช่วงเวลาที่ กิมาไรส์ อายุได้ 21 ปี เขาก็เริ่มโดนไล่ล่าลายเซ็นอย่างหนักแล้วทีมเก่าของเขาอย่าง แอตเลติโก ปาราเนนเซ่ เริ่มได้รับข้อเสนอจากสโมสรในยุโรป และสองทีมที่สนใจเขามากที่สุดคืออาร์เซนอล และ เชลซีทั้งสองทีม หวังจะปิดดีลกับกองกลางชาวบราซิลรายนี้ให้ได้ เช่นเดียวกับเบนฟิก้า แต่ลียงได้ให้คำมั่นในเรื่องโอกาสในการลงสนาม ซึ่งจะสามารถช่วยพัฒนาเขาได้ดีที่สุด มันเลยทำให้กิมาไรส์ย้ายไปที่นั่น

เขาต้องการเล่นบอลอาชีพที่อังกฤษ

แม้จะปฏิเสธโอกาสที่จะมุ่งหน้าสู่พรีเมียร์ลีก แต่กิมาไรส์ก็ไม่เคยปิดบังความชอบของเขา ว่าเขาต้องการทดสอบตัวเองด้วยการย้ายไปเล่นในอังกฤษในสักวันหนึ่ง “ผมเคยบอกกับเอเยนต์ของผมเสมอครับ ว่าผมอยากจะไปเล่นในอังกฤษ พรีเมียร์ลีกเป็นลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ทุกแมตช์สนุกมาก หวังว่าผมจะเข้าใกล้กับโอกาสนั้นในวันข้างหน้า” เขากล่าวกับ Fox Sports ในปี 2020 (ผ่าน GFFN)“แต่ละเกมนั้น ทีมในพรีเมียร์ลีกห้ำหั่นกันสนุกมาก พวกเขาสู้เหมือนเป็นนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยเลย”อยากได้เสื้อเบอร์ 39หากสโมสรแห่งไหนต้องการเซ็นสัญญากับกิมาไรส์ พวกเขาควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีเสื้อหมายเลข 39 ว่างสำหรับเขาหรือไม่ !กองกลางรายนี้ ผูกพันกับหมายเลข 39 ซึ่งเป็นหมายเลขรถแท็กซี่ที่พ่อของเขาเคยขับมานานกว่าสองทศวรรษในเมือง ริโอ เด จาเนโร และอันที่จริง เขามีโอกาสได้สวมเสื้อเบอร์ 39 ตอนอยู่กับแอตเลติโกด้วย ซึ่งมันคือเลขนำดชคของเขามันสำคัญมากสำหรับ กิมาไรส์ ที่เขาลงทุนอ้อนวอนให้ ลียง มอบเสื้อหมายเลข 39 ให้เขาแม้ว่าหมายเลขเสื้อของนักเตะของแค่ละทีมที่เล่นในลีกเอิง มักจะมีไม่เกินหมายเลข 30 แต่พวกเขาก็ต้องได้รับอนุญาตเป็นพิเศษจากลีกเพื่อทำให้ความปรารถนาของเขาเป็นจริง

เล่นได้หลากหลายบทบาทในแดนกลาง

ตำแหน่งในสนามของ กิมาไรส์ เรียกว่ามีความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ เขาอาจจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรับอาชีพ ตัดเกมดี อ่านทางบอลเก่ง แต่ที่แท้จริง เขาเองกลับสามารถเล่นได้เหมือนเป็น “เพลย์เมกเกอร์” สไตล์คลาสสิกที่ปั้นเกมหลังกองหน้าด้วยเช่นกัน เขาได้รับมอบหมายให้เล่นเกมรับในหลายๆเกมจนเกิดความเคยชิย ตัดเกมอย่างดุดันและเน้นสร้างจังหวะในการครอบครองพื้นที่กลางสนาม แต่จุดแข็งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขาคือ ความสามารถของเขาในการเปลี่ยนจากเกมรับเป็นรุกอย่างรวดเร็ว ทั้งจากการผ่านบอล และการเลี้ยงบอลของเขา

เป็นนักเตะที่เล่นเพรสซิ่งได้ดุดัน

แม้จะเป็นมิดฟิลด์ที่ยืนต่ำที่สุดในทีม แต่ กิมาไรส์ ก็ยังเป็นนักเตะที่ชอบเข้าไปช่วยกดดัน บีบพื้นที่คู่ต่อสู้ และยังช่วยเพื่อนในการกดดันจนแย่งบอลกลับมาได้ แถมยังทำหน้าที่เป็นมิดฟิลด์แบบ “บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์” ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยเขาชอบที่จะกดดันคู่ต่อสู้อย่างดุดัน ไล่แย่งบอลกลับมาทันทีเมื่อเขาเสียบอล อ่านเกมขาด ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับมิดฟิลด์ยุคปัจจุบันตอนนี้เหลือเพียงแค่ว่า กิมาไรส์ จะไปได้ไกลแค่ไหนในการเล่นระดับสูง ซึ่งคาดว่าอีกไม่นาน เขาเองก็อาจจะกลายเป็นนักเตะระดับดาวดังให้กับสโมสรบิ๊กเนมที่เจ๋งกว่าลียงก็เป็นได้ !