เมื่อปี 2016/17 ฌอน ลองสตาฟ กองกลางชาวอังกฤษ มีอายุ 19 ปี และไม่เคยได้ลงเล่นให้กับ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ต้นสังกัดของตัวเอง เลยแม้แต่นัดเดียว เขาถูกปล่อยยืมตัวไปที่ คิลมาร์นอค ในสก็อตติชพรีเมียร์ลีก เพื่อหาโอกาสลงสนามพัฒนาฝีเท้า
ในระหว่างเล่นด้วยสัญญายืมตัวที่ คิลมาร์นอค นั้น ลองสตาฟ ก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จากการซัดไป 3 ประตู ใน 16 เกมที่ลงสนาม อย่างไรก็ตาม นิวคาสเซิล ก็ยังคงไม่ให้โอกาสเขาเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสร
ในปี 2017/18 มิดฟิลด์เมืองผู้ดี อายุ 20 ปี เขาก็ยังคงไม่ได้ลงเล่นให้กับ นิวคาสเซิล และถูกปล่อยให้ แบล็คพูล สโมสรในลีกวัน ยืมตัวไปใช้งาน ลองสตาฟ ก็โชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้งด้วยการยิงไป 8 ลูก จากการลงสนาม 42 เกม แต่ “สาลิกาดง”ก็ยังไม่เรียกเขาสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรอยู่ดี
ในเดือน ส.ค.ปี 2018 ฌอน ลองสตาฟ อายุ 21 ปี ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับ นิวคาสเซิล เป็นครั้งแรกในเกมลีก คัพ กับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งผลจบลงด้วยการที่ “สาลิกาดง” บุกไปพ่าย “เจ้าป่า” 3-1 ตกรอบ จากนั้นเขาต้องอยู่บนม้านั่งสำรอง และแทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามอีกเลย
อย่างไรก็ตาม เดือนมกราคมที่ผ่านมา นิวคาสเซิล ต้องเผชิญกั[วิกฤตการณ์ขาดแคลนผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางกลาง ก่อนเดินทางไปที่เล่นกับ เชลซี ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เนื่องจาก คี ซู ยอง ห้องเครื่องชาติเกาหลีใต้ ต้องไปช่วยชาติในศึกเอเชียน คัพ
ขณะที่ เคเนดี้ ปีกบราซิล ซึ่ง นิวคาสเซิล ยืมตัวมาจาก เชลซี ก็ไม่สามารถลงเจอต้นสังกัดตัวเองได้ โมฮัมเหม็ด ดิยาเม กองกลางชาวเซเนกัล มีอาการบาดเจ็บที่สะโพก และ จอนโจ เชลวี จอมทัพชาวอังกฤษ มีปัญหาบาดเจ็บต้นขา
ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสเปน ของ นิวคาสเซิล เหลือมิดฟิลด์ให้เลือกใช้งานเพียงแค่สองคนเท่านั้น คือ ไอแซค เฮย์เดน ซึ่งเป็นตัวสำรองมาโดยตลอด และเตรียมถูกขายในตลาดหน้าหนาว อีกคนคือ ลองสตาฟ ซึ่งไม่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีกมาก่อนเลย
สุดท้ายแล้วในเกมกับ เชลซี เบนิเตซ จึงต้องตัดสินใจส่ง เฮย์เดน และ ลองสตาฟ ลงทำหน้าที่ร่วมกัน ก่อนจะพ่าย “สิงโตน้ำเงินคราม” แบบหวุดหวิด 2-1
มันเป็นคำแนะนำที่จะทราบว่า ไม่มีใครรู้สึกเสียวซ่าด้วยความตื่นเต้นอย่างที่คาดหวังว่า จะได้เห็น ลองสตาฟ ซึ่งเป็นเด็กในอคาเดมีของ นิวคาสเซิล ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ และทำผลงานให้กับทัพ “สาลิกาดง”ได้เป็นอย่างดี
คุณสามารถพิสูจน์ได้ว่า นักเตะอายุเพียง 21 ปี ก็สามารถทำผลงานที่ยอดเยี่ยมได้ เบนิเตซ เพิ่งพูดถึงเรื่องการดูแล ลองสตาฟ ว่าจะให้เริ่มในการฝึกซ้อมในชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ไปก่อน และเชื่อว่าเขาจะทำได้ดีพอที่จะสร้างผลกระทบกับทีมชุดใหญ่ในบางโอกาส
อย่างไรก็ตาม สาวก นิวคาสเซิล บางรายใจร้อน และอยากเห็นเด็กปั้นรายนี้ เขามาอยู่ในทีมชุดใหญ่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเขาเปรียบเสมือนความภาคภูมิใจของสโมสร และ เบนิเตซ ก็รับรู้ถึงความรู้สึกของแฟนบอลเป็นอย่างดี
โอกาสลงสนาม คือ หนึ่งในสิ่งกีดขวางบนถนนลูกหนังสำหรับผู้เล่นอายุน้อยที่กำลังผ่านเข้าสู่ช่วงการเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว นักเตะดาวรุ่งบางคนไม่สามารถรอคอยโอกาสได้ เอเย่นต์จึงใช้ช่องทางการย้ายสโมสรเป็นเรื่องจูงใจ ความหลงใหลนั้นเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะแรงผลักดันจากสื่อต่างๆ
สำหรับ ลองสตาฟ นั้น ไม่ใช่ เขาพร้อมจะรอคอยโอกาสอย่างอดทน การเข้ามาของ มิเกล อัลมิรอน จอมทัพทีมชาติปารากวัย เมื่อมกราคมที่ผ่านมา บางคนคาดว่าจะทำให้โอกาสลงสนามของ เด็กปั้น นิวคาสเซิล ลดน้อยลงไปอีก นั่นฟังดูไม่เป็นความจริงเลย
ลองสตาฟ และ อัลมิรอน สามารถเล่นร่วมกันได้เป็นอย่างดี ทั้งคู่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้อย่างลงตัว ส่งผลให้ฟอร์มลีกของ นิวคาสเซิล ก็พัฒนาขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และแฟนบอล “สาลิกาดง” ก็กำลังมีความสุข
ในเกมลีกที่ นิวคาสเซิล เปิดบ้านเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0 นั้น ลองสตาฟ ก็สามารถทำประตูแรกของตัวเองให้กับสโมสรได้สำเร็จ ในฐานะเด็กท้องถิ่นซึ่งใฝ่ฝันที่จะทำประตูต่อหน้าแฟนบอลในถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ที่คอยส่งเสียงเชียร์สนับสนุนเขาตลอดทั้งเกม
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการทำประตูคือ การที่เขาได้ลงสนามเป็น 11 คนแรก ในตำแหน่งกองกลาง เนื่องจาก ดิยาเม, ซอง และ เชลวี่ กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง และ เบนิเตซ ต้องปวดหัวในการเลือกผู้เล่นลงสนามในเกมต่อไป
สื่อเมืองผู้ดี ระบุว่า นิวคาสเซิล กำลังเร่งต่อสัญญาใหม่กับ ลองสตาฟ โดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการกันทางบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่มาฉกตัวไปร่วมทีม หลังเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และที่สำคัญเขามีสัญชาติอังกฤษ
หนึ่งในข้อเสียของการแจ้งเกิดอย่างรวดเร็วคือ ทุกสิ่งที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นในครั้งเดียว นักฟุตบอลวัยเยาว์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างฉับพลันเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือ โดยบางคนคนที่จงใจละเลยข้อบกพร่องของตนเอง
หากคุณได้รับการรับรองสถานะว่าเป็นเศรษฐีก่อนที่คุณจะอายุ 23 ปี และตามด้วยผู้ที่หมดหวังที่จะเห็นคุณผิดพลาด คุณจะใช้เวลากี่ชั่วโมงก่อนที่จะก้าวออกจากเส้นนั้นได้ ลองสตาฟ ก็กำลังจะโดนทดสอบแบบเดียวกันในอนาคตอันใกล้นี้
แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่คาดการณ์เรื่องราวของ ลองสตาฟ ต่อสภาพแวดล้อมที่กว้างขึ้นของผู้เล่นเยาวชนชาวอังกฤษ และเส้นทางสู่ทีมแรกของพรีเมียร์ลีก ความสำเร็จของเขาทำให้เกิดคำถามที่ชัดเจนพร้อมคำตอบที่ชัดเจนอีกด้วย
เราได้ยินความสำเร็จมากมายรอบ ๆ ทีมเยาวชนของอังกฤษ หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในระดับกลุ่มอายุในปี 2560 เราได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อความเกี่ยวข้องในระดับสโมสร
ลองสตาฟ ไม่เคยลงเล่นในทุกระดับอายุของทีมชาติอังกฤษ แต่หากเขาสามารถแสดงระดับความสามารถและวุฒิภาวะให้เจริญงอกงามในพรีเมียร์ลีกได้ นั่นทำให้การติดทัพ “สิงโตคำราม” ชุดใหญ่อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
ทางเลือกนั้นยากกว่าที่จะเชื่อว่า กองกลางกลางหนุ่มชาวอังกฤษคนหนึ่ง ที่เข้ามาไกลที่สุดจากความหนาวเหน็บนั้น เป็นคนที่ดีพอที่จะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่สุดโหดในพรีเมียร์ลีก พูดคุยกับโค้ชเยาวชนคนใดก็ได้ และฟังในขณะที่พวกเขาเพิ่มความสามารถทางเทคนิค และวุฒิภาวะทางจิตใจ ที่เพิ่มขึ้นในอะคาเดที่ของสโมสร
ลองสตาฟ มีความสุขที่มุ่งมั่นที่จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้ หากชายหนุ่มที่มีประสบการณ์ในพรีเมียร์ชิพสก็อตแลนด์ และลีก วัน สามารถก้าวกระโดดครั้งนี้ได้ นั่นก็ถือเป็นความสำเร็จที่สุดยอดของเขาแล้ว
