ซ้ายเหยียบโลก ! รวมแข้งอีซ้ายระดับตำนานของทัพ เนรัซซูรี

รวมแข้งอีซ้ายระดับตำนานของทัพ เนรัซซูรี

มาริโอ คอร์โซ

จากรายงานของ บ้านผลบอล นักเตะถนัดเท้าซ้ายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตำนานของสโมสร อินเตอร์ มิลาน มีอยู่หลายคนเลยทีเดียว แต่ในยุคแรกๆที่ได้มีการบันทึกเอาไว้นั้น มันจะต้องยกให้กับแข้งเกมรุกชาวอิตาเลียนรายนี้เลยทีเดียว เพราะเขาคือ “ฮีโร่” ในสายตาแฟนบอล แต่เป็น “ผู้ร้าย” ในสายตาของโค้ชแทบจะทุกคนเลยทีเดียวที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับปีกตีนตะขอรายนี้

คอร์โซ เป็นเพลย์เมกเกอร์ที่เล่นอยู่ตรงกลางก็ได้ แต่ตำแหน่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวของเขามากที่สุดก็คือ “ปีกซ้าย” เพราะความสามารถในการเลี้ยงบอลหลบคู่ต่อสู้ด้วยความเร็ว และมีชั้นเชิงของเขานั่นเองที่ทำให้เขากลายเป็นตำนานนักเตะที่ยังมีลมหายใจของทีม

มิดฟิลด์ริมเส้นรายนี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านของการเลี้ยงบอล และยังมีเท้าซ้ายชั่งทองที่เปิดบอลเข้าหัวของเพื่อเพื่อทำประตูได้อย่างมากมาย เขาเปิดบอลได้แม่นยำมาก หรือจะเป็นการแทงลูกทะลุช่องก็ทำได้ดี แต่ถ้าจะให้เลือกสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นไม้ตายของเขาเลยก็คือ ลูกเปิดแบบ “Early Cross” จากริมเส้นของเขานั่นเองที่แทบจะล็อกเป้าหมายไว้แล้วว่า คอร์โซ จะเปิดบอลให้ใครทำประตู เขาเลยมีสถิติแอสซิสต์ที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก

และนอกเหนือจากการเปิดบอลที่แม่นยำของเขาแล้วนั้น คอร์โซ ยังมีลูกฟรีคิกที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ทำให้ในยุค 60 เขาเป็นนักเตะที่มีสถิติการยิงฟรีคิกเป็นประตูที่ไม่แพ้แข้งจอมเตะลูกนิ่งรายอื่นๆเลยทีเดียว

เขาแล่นให้กับ อินเตอร์ จนคว้าแชมป์ได้หลากหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ลีก แล้วยังมีแชมป์ยุโรปอย่างถ้วยยูโรเปี้ยนคัพ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในปัจจุบัน) ถึง 2 สมัยติดต่อกันเลยทีเดียว

ฉายาในวงการลูกหนังของ คอร์โซ ในเวลานั้นก็คือ “เท้าซ้ายแห่งพระเจ้า” มันก็สมควรแก่การยกย่องแบบนี้จริงๆ เพราะเท้าซ้ายของเขาแทบจะใช้เปิดกระป๋องปลาซาร์ดีนได้เลย แต่สิ่งเดียวที่ทำให้เขาไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดแข้งอันดับ 1 ของโลกได้ก็คือ “นิสัยส่วนตัวของเขานั่นเอง”

คอร์โซ เป็นนักเตะที่อารมณ์ร้ายมาก เขาใจร้อน พร้อมมีเรื่องกับคู่ต่อสู้ได้ตลอดเวลา และยังชอบเถียงกรรมการ ไม่พอยังลามไปถึงการเถียงโค้ชด้วย มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่โค้ชของอินเตอร์หลายๆคน โดยเฉพาะกับ เอลินิโอ เอร์เรรา เทรนเนอร์มากฝีมือ อยากที่จะจับเขาขายพ้นทีมให้ได้แทบจะทุกเวลา แต่ว่าแฟนบอลของอินเตอร์ ดันรักนักเตะรายนี้ดุจพระเจ้าเลยทีเดียว ทำให้ในเกมไหนที่ คอร์โซ โดนดรอปไม่ให้ลงสนาม เขาจะโดนแฟนบอลกดดันให้นักเตะรายนี้ลงไปเล่นตลอด และทุกครั้งที่เขาอ่อนข้อยอมให้ คอร์โซ ลงไปเล่นนั้น นักเตะรายนี้ก็จะสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมได้ทุกครั้ง !

อัลบาโร เรโคบา

นักเตะถนัดเท้าซ้ายนั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นพวกแข้งอัจฉริยะ หรือไม่เช่นนั้นก็จะเป็นพวกนักเตะสไตล์ “เท้าหนัก” ขอแค่ได้หวดบอลแค่ทีเดียว พวกเขาสามารถส่งบอลพุ่งเป็นจรวดเสียบตาข่ายจนแทบทะลุได้เลยทีเดียว ดังนั้นแล้ว ผู้รักษาประตูฝั่งตรงข้าม อย่าพยายามไปเซฟประตูเลย เพราะมีแต่จะเจ็บตัวเปล่าๆ

แต่นักเตะรายนี้ของอินเตอร์ เขาเป็นทั้ง “อัจฉริยะ” และยังเป็นพวก “เท้าหนัก” รวมอยู่ในตัวคนเดียวเลยทีเดียว เขาคือนักเตะหน้าตี๋ที่เกิดในประเทศอุรุกวัย แต่มีเท้าซ้ายที่เป็นอาวุธทรงพลัง แถมมีทักษะในการสร้างสรรค์เกมในระดับต้นๆของลีกเลยทีเดียว และนี่คือนักเตะที่ชื่อว่า “อัลบาโร เรโคบา” ตำนานมิดฟิลด์ตัวรุกทีมชาติอุรุกวัยของ อินเตอร์ มิลาน

“อิล ชิโน” เป็นันกเตะที่มีความสามารถในการเล่นเกมรุกอันโดดเด่นอย่างมาก เขาจะเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกตรงกลาง , ปีกซ้าย , หน้าต่ำ หรือสวมบทเพลย์เมกเกอร์ เขาก็ทำได้ดีไปหมด

เขามีเท้าซ้ายที่น่ากลัวมาก โดยเฉพาะกับการยิงไกลนอกเขตโทษ จะเป็นระยะไหน มุมไหน ถ้า เรโคบา กดสูตรติดล่ะก็ อย่าได้ไปหวังเลยว่าจะรับได้ แถมเจ้าตัวยังมีลูกฟรีคิกที่โค้งเป็นกล้วยแถมหนักหน่วง แม่นยำราวกับกดรีโมตเลยทีเดียว

ในสมัยอยู่กับอินเตอร์ เขาเคยทำประตูจากลูกเตะมุมที่โค้งซวบเดียวเสียบตาข่ายมาแล้ว หรือจะเป็นการยิงไกลกว่าครึ่งสนามก็เคยทำมาแล้วเช่นกัน เรียกว่าขอแค่บอลเข้าเท้าซ้ายของไอ้ตี๋จากอเมริกาใต้รายนี้เมื่อไหร่เป็นอันได้เรื่อง

แต่สิ่งเดียวที่มันบดบังความเก่งกาจของเขาก็คือ อาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้งนั่นเอง ที่ทำให้ เรโคบา ไมได้ก้าวไปสู่การเป็นแข้งอันดับ 1 ของโลกในช่วงยุคเวลาของเขา

ถึงอย่างไรก็ตาม เรโคบา ก็ผ่านการคว้าแชมป์ลีกร่วมกับอินเตอร์ มิลาน มาได้หลายสมัย และยังเป็นตำนานลูกหนังทีแฟนบอลของอินเตอร์ ยังคงรู้สึกผูกพันอย่างมาก โดยในปัจจุบันนั้น เรโคบา ได้กลับไปเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพในลีกบ้านเกิดกับทีม ดานูบิโอ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เขาเองก็ยังฝากลูกยิงสวยๆเอาไว้กับสังกัดสุดท้ายได้อยู่เช่นกัน

โรแบร์โต้ คาร์ลอส

ตำนานนักเตะซ้ายทองคำของสโมสร อินเตอร์ มิลาน ยังมีอีกหลายคนเลยทีเดียว แต่สำหรับวันนี้ เราจะหยิบเอาตำนานกองหน้า เอ้ยไม่ใช่สิ ! เขาคือแบ็กซ้ายต่างหาก แต่แค่ว่าในโลกของเกมนั้น แฟนบอลชอบจับเอาเขาไปเล่นเป็นกองหน้ามากกว่า เพราะพลังในการยิง กับความเร็วในการเลี้ยงบอลของเขานั้นมันแทบจะไม่มีใครสู้เขาได้เลยนั่นเอง และนี่ก็คือนักเตะที่มีชื่อว่า “โรแบร์โต้ คาร์ลอส” ตำนานแบ็กซ้ายคงกระพันของสโมสร อินเตอร์ มิลาน

อันที่จริงนั้น คาร์ลอส ได้รับการยกย่องอย่างมากในสมัยที่เขาเล่นให้กับ เรอัล มาดริด และทีมชาติบราซิล เขาเป็นตำนานของสองทีมนี้จริงๆ ส่วนกับ อินเตอร์ เขายังไม่ถือว่าเป็นนักเตะที่เข้าขั้นตำนาน แต่ก็มีแฟนบอลให้ความชื่นชอบในตัวของดาวเตะบราซิเลียนรายนี้อย่างมากเลยจริงๆ

คาร์ลอส ย้ายมาเล่นในลีกยุโรปกับ อินเตอร์ มิลาน เป็นทีมแรก และช่วงเวลาดังกล่าวนั้น อินเตอร์ มีโค้ชชาวอังกฤษที่ชื่อว่า รอย ฮอดจ์สัน เป็นคนทำทีม และเขาก็มองว่าทักษะในการเล่นเกมรุกของ คาร์ลอส รวมถึงความเร็วที่มี การเปิดบอลที่แม่นยำ มีลูกยิงที่ทรงพลัง มันเลยทำให้ปู่รอย มองว่านักเตะรายนี้ สมควรจะมาเล่นเป็นปีกซ้ายมากกว่าจะไปยืนอยู่ในแผงแบ็กโฟร์ที่เขาไม่ค่อยได้เรื่องในการเล่นเกมรับ

แต่ว่าผลงานของ คาร์ลอส ในบทบาทของ “วิงเกอร์” ก็เข้าขั้นน่าปวดหัวเช่นกัน เพราะสไตล์ของนักเตะแบบเขาที่มีความอึด ชอบวิ่งขึ้นลงจากแดนตัวเองสู่แดนหน้า มันเลยทำให้ระบบการเล่นที่มีปีกสองฝั่งเป็นตัวทำเกม เลยดูมั่วๆไปหมด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ คาร์ลอส ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์เช่นกันว่า เขาไม่ชอบช่วงเวลาที่ ฮอดจ์สัน เป็นคนทำทีมอินเตอร์เท่าไหร่ เพราะส่วนหนึ่งคือเจ้าตัวไม่ได้ชอบเล่นเป็นปีกหรือกองหน้าริมเส้นแบบที่แฟนบอลชอบจับเอาเขาไปเล่นในเกม เพราะในชีวิตจริงนั้น สิ่งที่เขาชอบก็คือการเติมบุกช่วยซัพพอร์ทนักเตะตัวรุกของทีมมากกว่าจะไปยืนเป็นตัวรุกซะเอง

ทักษะของหมอนี่มีอะไรบ้าง ! ก็หนีไม่พ้นกับลูกยิงไกลนอกเขตโทษอันทรงพลังของเขานั่นเอง เขาสามารถซัดบอลเต็มหลังเท้าส่งบอลพุ่งเป็นจรวดได้อย่างน่ากลัว แต่จะเข้าประตูหรือไม่นั้นก็ว่ากันอีกเรื่อง และเขายังมีลูกเปิดจากริมเส้นที่แม่นยำมากอีกด้วย ขาดไม่ได้กับพลังในการวิ่งขึ้นลงตลอด 90 นาทีด้วยอีก ความเร็วก็ใช่ย่อย มันเลยทำให้แฟนบอลอินเตอร์ จดจำเขาได้มากเลยทีเดียว

คริสเตียน วิเอรี

ปกติแล้วนั้น นักเตะที่เป็นตัวรุก ยิ่งถ้าเป็นพวกแข้งถนัดซ้ายนั้น มันก็มักจะได้รับการจับตามองมากกว่าใครอยู่แล้ว และนักเตะรายที่เราจะกล่าวถึงนี้ก็คือดาวซัลโวที่เก่งที่สุดอีกคนหนึ่งของวงการฟุตบอลอิตาเลียนเลยทีเดียว นั่นก็คือรายของ “โบโบ้” คริสเตียน วิเอรี กองหน้าร่างยักษ์ชาวอิตาเลียนที่มีเท้าซ้ายสุดทรงพลังเป็นขีปนาวุธทำลายล้างชั้นยอดของเขาเลยทีเดียว

สไตรเกอร์รายนี้ เป็นนักเตะที่สามารถลบข้อครหาจากนักวิจารณ์ได้เลย ถึงเรื่องว่าเป็นนักเตะรูปร่างสูงใหญ่แล้วจะไม่ค่อยมีความคล่องตัวเท่าไหร่ ดูอืดๆ โยกเยก แต่มันไม่ใช่กับตัวของ วิเอรี เพราะเขาคือโคตรดาวยิงที่สามารถไปกับบอลได้ดี เทคนิคสูง เล่นได้ทั้งบทบาทตัวเข้าฮอร์ส หรือพาบอลไปยิงเองก็ทำได้หมดเลยทีเดียว

Christian Vieri

อาวุธเด็ดของ วิเอรี นั่นก็คือการยิงด้วยเท้าซ้ายพิฆาตของเขานั่นเอง เขาเป็นนักเตะที่ชอบในการยิงเข้าข้อ และด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ของเขาเองนั้น ก็เลยทำให้เขามีลูกโหม่งที่น่ากลัวด้วย บวกกับความแข็งแกร่งของร่างกาย มันเลยทำให้ วิเอรี เบียดสู้กับกองหลังโหดๆในเซเรียอาได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว

ในยุคสมัยที่เขาค้าแข้งกับอินเตอร์ มิลาน เขาเคยได้จับคู่กับ โรนัลโด้ นาซาริโอ เป็นบางนัด เพราะส่วนใหญ่แล้วนั้น ถ้าหากไม่ใช่โรนัลโด้บาดเจ็บ ก็เป็นเขานี่แหละที่บาดเจ็บซะเอง

ช่วงเวลาในการค้าแข้งกับ อินเตอร์ เขาอาจจะมีแค่แชมป์โคปปา อิตาเลีย มาครองแค่รายการเดียวเท่านั้น แต่ว่าในฤดูกาล 2002-03 มันคือจุดพีคของเขากับ อินเตอร์ เลยทีเดียว เมื่อเขากราดยิงไม่ไว้หน้าใครถึง 24 ประตูจากการลงเล่นในเซเรียอาไปแค่ 23 นัดเท่านั้น ทำให้เขาคว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดของ คัมปิโอนาโต้ ไปครองแบบชิลๆเลยทีเดียว

แถมก่อนหน้านั้น เจ้าตัวยังเคยไประเบิดฟอร์มการเล่นในลีกสเปนมาแล้วกับ แอตเลติโก้ มาดริด เมื่อลงเล่นไป 24 นัด พี่แกก็ยิงไป 24 ประตูนั่นแหละ คว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดของลาลีกามาครองได้แบบเหนือๆด้วยเช่นกัน

ผลงานกับ อินเตอร์ เขาลงเล่นไป 143 นัด ยิงได้มากถึง 103 ประตูเลยทีเดียว แม้ว่าจะมีแชมป์กับทีมแค่รายการเดียว แต่ผลงานส่วนตัวของ วิเอรี กับทางอินเตอร์ ก็นับว่าสอบผ่านอย่างชัดเจน และเป็นตำนานกองหน้าอีซ้ายพิฆาตที่แฟนบอลยังคงชื่นชมเขามาตลอด

อาเดรียโน

แข้งตีนซ้ายพิฆาตที่ผู้รักษาประตูของหลายๆทีม มักจะกลัวที่สุดเวลาที่ได้ลงสนามแข่งขันกับอินเตอร์ มิลาน มันก็หนีไม่พ้นนักเตะเท้าซ้ายหนักรายนี้จริงๆ นั่นก็คือรายของ อาเดรียโน ตำนานกองหน้าทีมชาติบราซิลที่ซึ่งเคยระเบิดตาข่ายได้เป็นเข่งเลยทีเดียวในสมัยที่ค้าแข้งกับสโมสร อินเตอร์ มิลาน

สไตรเกอร์รายนี้ ได้ก้าวเข้ามาสู่ถิ่น ซาน ซิโร และได้รับเสื้อหมายเลข 10 ไปใส่อีกด้วย โดยกองหน้ารายนี้เป็นกองหน้าที่มีความแข็งแกร่ง ดุดัน รวดเร็ว ไปกับบอลได้ดี แถมยังมีทีเด็ดตรงที่ “เท้าซ้าย” ที่ยิงทีเป็นอันได้เรื่อง เขาชอบยิงประตูแบบใส่เข้าข้อ ทำให้บอลพุ่งเป็นจรวดเสียบตาข่ายทีแทบจะทะลุไปหลังประตูเลยทีเดียว

ดาวเตะรายนี้ได้รับฉายาว่า “ดิ เอ็มเพอเรอร์” ที่แปลว่าจักรพรรดิ แถมยังได้รับความคาดหวังอย่างมากว่า เขาจะเป้นักเตะบราซิเลียนที่ก้าวขึ้นมาสานต่อตำนานของ โรนัลโด้ นาซาริโอ ตำนานกองหน้ารุ่นพี่ชาวบราซิลทั้งในระดับทีมชาติ และในระดับสโมสรเลยทีเดียว และนอกจากนี้ อินเตอร์ มิลาน ยังเป็นต้นสังกัดเก่าของ โรนัลโด้ด้วยอีก มันเลยยิ่งทำให้เขาโดนคาดหวังเอาไว้เยอะ

อาเดรียโน เป็นนักเตะที่แทบจะมีสไตล์การเล่นไม่ต่างจาก โรนัลโด้เลยจริงๆ เขามีความเร็ว แกร่ง ยิงคม จมูกไว และมีออร่าความเป็นซูเปอร์สตาร์อยู่ในตัวเต็มเปี่ยม แต่สิ่งเดียวที่ทำให้ อาเดรียโน กลายสภาพจากโคตรสตาร์ กลายเป็นดาวดับในพริบตามันก็เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเขานั่นเอง

กองหน้ารายนี้ตั้งแต่ในอดีตนั้น เขามีคุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมาโดยตลอด แต่มีวันหนึ่งที่เขาได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากประเทศบราซิล ที่โดรมาหาเขา และปลายสายนั้นก็ได้แจ้งข่าวร้ายว่าพ่อของเขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว และจากนั้น อาเดรียโน ก็ระเบิดความคลั่งด้วยการตะโกนออกมาและร้องไห้แบบไม่อายใคร เขาสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปแบบไม่มีวันกลับ

แม้ว่าเพื่อนร่วมทีม แฟนบอล และโค้ช จะช่วยกันให้กำลังใจ อาเดรียโน แค่ไหน แม้แต่ตัวของ มัสซิโม โมรัตติ ประธานสโมสร อินเตอร์ มิลาน ในเวลานั้นจะลงมาช่วยพูดช่วยให้กำลังกองหน้ารายนี้แค่ไหน แต่เขาก็ปล่อยให้ความเศร้าเข้าไปกัดกินหัวใจของเขามากเกินไป

อาเดรียโน เริ่มที่จะหาทางออกด้วยการดื่มเหล้าหนักมากขึ้น ประชดชีวิตไปวันๆ ปล่อยตัวมากกว่าเดิม จนสุดท้ายจากอสูรร้ายในสนามก็กลายสภาพเป็นนักเตะดาดๆที่ไม่มีใครเอาอีกต่อไป โดยในช่วงเวลาต่อมานั้น เขาก็โดน อินเตอร์ มิลาน ปล่อยตัวออกจากสโมสรไปในที่สุด เป็นอันปิดฉากเรื่องราวอันน่าเศร้าของกองหน้ารายนี้ที่น่าจะก้าวขึ้นมาเป็นดาวเตะระดับโลกด้วยซ้ำ

อันเดรียส เบรเมห์

เราจะย้อนกลับไปในช่วงต้นยุค 90 มันคือช่วงเวลาที่ เซเรียอา กำลังอุดมไปด้วยสตาร์นักเตะระดับโลกอย่างแท้จริงเลยทีเดียว และทาง อินเตอร์ มิลาน ก็มีโอกาสต้นรับนักเตะจากทีมชาติเยอรมันชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1990 มาร่วมทีมด้วยอีก 1 ราย นั่นก็คือตัวของ อันเดรียส เบรเมห์ วิงแบ็กซ้ายตีนระเบิดชาวเยอรมันที่ได้ตบเท้าเข้ามายัง ซาน ซิโร และจะได้ผนึกกำลังกับ โลธาร์ มัทเธอุส และ เจอร์เก้น คลินส์มันน์ เพื่อสร้างตำนาน “สามทหารเสือดอยช์” ไว้งัดกับ “สามทหารเสือดัตช์” ของฝั่ง เอซี มิลานนั่นเอง

เบรเมห์ เป็นผู้เล่นที่สามารถเล่นไดหมดทางฝั่งซ้ายของสนาม ไล่ตั้งแต่ แบ็กซ้าย , วิงแบ็กซ้าย , ปีกซ้าย เขามีความอึดในการวิ่งขึ้นลง 90 นาทีตั้งแต่แดนตัวเองสู่แดนคู่ต่อสู้ แถมยังมีเท้าซ้ายที่เปิดบอลได้แม่นยำราวกับตีเรดาร์ไว้

ไม่เพียงแต่ว่าการใช้เท้าซ้ายจะเป็นอาวุธของเขาเท่านั้น แต่นักเตะรายนี้ยังมีเท้าขวาอันทรงพลังที่สามารถยิงหรือเปิดบอลได้ดีไม่แพ้เท้าซ้ายของเขาเลย เราจึงเห็นช็อตเด็ดที่ เบรเมห์ ยิงฟรีคิกด้วยเท้าซ้าย และยิงจุดโทษด้วยเท้าขวาอยู่บ่อยครั้ง

มันน่าเสียดายอย่างมากที่ตัวของวิงแบ็กทีมชาติเยอรมันรายนี้ อยู่ค้าแข้งในอิตาลีได้ไม่นานเท่าไหร่ เขาก็ย้ายออกจากทีมไป แต่มันก็ไม่มีแฟนบอล อินเตอร์ คนไหนเลยที่จะลืมเรื่องราวของฟูลแบ็กตีนระเบิดรายนี้ ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้เท้าซ้ายทำทุกอย่างให้กับอินเตอร์ ทั้งยิง ทั้งเลี้ยงบอล ทั้งแอสซิสต์

คริสเตียน คิวู

ตำนานกองหลังทีมชาติโรมาเนียรายนี้ เป็นอีก 1 นักเตะที่แฟนบอลอินเตอร์รักมากที่สุดอีกรายหนึ่ง เขาคือนักเตะที่มีความทุ่มเทเกินร้อยในสนาม ต่อให้ต้องใส่ เฮดการ์ดไว้เพื่อป้องกันการกระแทก เขาก็พร้อมจะใส่เพื่อช่วยทีม แถมยังขยับไปเล่นเป็นแบ็กซ้ายก็ยังได้

คิวูเป็นกองหลังถนัดซ้ายที่มีพลังในการยิงประตูที่ทรงพลังอย่างมาก ทำให้เขาเป็นอีก 1 นักเตะจอมยิงฟรีคิกที่น่ากลัวมากอีกรายหนึ่งของอินเตอร์ มิลาน ไม่แพ้พวกระดับอย่าง ซินิซ่า มิไฮโลวิช เลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง จนไม่สามารถกลับคืนสู่ฟอร์มการเล่นที่ดีได้เลย

คริสเตียน คิวู