จิม คาเซล นักปั้นมือทองแห่งทัพ เรือใบสีฟ้า

จิม คาเซล นักปั้นมือทองแห่งทัพ เรือใบสีฟ้า

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจยังไม่เห็นพรสวรรค์เล็กๆน้อยๆของสิ่งที่ ฟิล โฟเด้น มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวผู้ดี ทำได้ เขาถูกนำมาเปรียบเทียบกับ ลิโอเนล เมสซี่ ตำนานชาวอาร์เจนไตน์ ของ บาร์เซโลน่า ในศึก ลา ลีกา สเปน

ในวันที่มืดมิดในเดือนพฤษภาคม ปี 2541 จิม คาเซล พึ่งได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าพัฒนาทีมเยาวชนของ ซิตี้ เพียงปีแรก แต่เขาชนะการต่อสู้ครั้งแรก 1 ปีต่อมาทีมงานของเขา ค้นพบ คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คขวา ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งในอดีตเคยเป็นเด็กปั้นของ “เรือใบสีฟ้า”

จากนั้น อีก 7 ปี ถัดมา คาเซล ค้นพบเพชรเม็ดงามอย่าง โฟเดน ในวัย 6 ขวบ ก่อนจะดึงเจ้าหนูอนาคตไกลรายนี้ เข้าร่วมทีมเยาวชนของ ซิตี้ ในเวลาต่อมา เงินทุกบาทที่เขาใช้อย่างคุ้มค่า กำลังตอบแทนผลงานให้กับ “เรือใบสีฟ้า” ในเร็ววัน

คาเซล เริ่มกล่าวว่า “ฟิลิป เป็นนักเตะพรสวรรค์ที่ไม่เหมือนใครตอนอายุ 6 ขวบ เขาเป็นธรรมชาติเหมือนกับ เมสซี่ เขาตัวเล็ก แต่มีแรงโน้มถ่วงต่ำ เขาทำสิ่งต่างๆเหมือนง่าย ตอนนี้ผมเฝ้ามองเขาแล้วคิดว่า “เอาเลยไอหนู เรากำลังรอการเติบโตต่อไป”

“หลังจากนั้นไม่นาน ผมเชื่อว่า เขาจะโบยบิน ซิตี้ อาจยังไม่เห็นเศษเสี้ยวของสิ่งที่เขามี เมื่อเขาเติบโตขึ้นอีกครั้ง และการค้าแข้งดำเนินต่อไป ในการซ้อมเขาอาจจะต้องผ่านลูกบอลสามหรือสี่ครั้ง แต่เขาไม่เคยบ่น เหมือนกับที่เขาทำตอนเด็กเหมือน เมสซี่ เขาจะมีชื่ออยู่ในทีมชาติอังกฤษ ในอีก 18 เดือนข้างหน้านี้อย่างแน่นอน” อดีตทีมงาน ซิตี้ กล่าว

ปัจจุบัน คาเซล อายุ 71 ปี และไม่ได้ทำงานในวงการฟุตบอลอีกต่อไป เขากำลังฟื้นตัวจากโรคมะเร็งได้ดี เขาเฝ้าดูการแข่งขันฟุตบอลโลกช่วงฤดูร้อนครั้งล่าสุดจากเตียงในโรงพยาบาลของเขา ทริปเปียร์ เป็นผู้ทำประตูให้อังกฤษ ในรอบรองชนะเลิศที่แพ้ โครเอเชีย ซึ่งทั้งคู่ยังคงติดต่อกันเป็นประจำ

“เขาส่งข้อความถึงผมเมื่อคืนก่อนเกมนั้น เราเคยไปทานอาหารกลางวันที่ Cheshire เขาได้ยินว่าผมไม่ค่อยสบาย และอยากจะขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ผมทำ”

“เราควรเก็บ คีแรน ไว้ และปล่อยเขาให้ทีมอื่นยืมตัว แต่สโมสรมี ไมกา ริชาร์ดส์ และ ปาโบล ซาบาเลต้า อยู่แล้วในเวลานั้น เขาจึงถูกขายให้กับ เบิร์นลี่ย์ คีแรน เล่นกับลูกบอลเหมือนกับเป็นผู้เล่นพรีเมียร์ลีก มานาน เมื่อเขาอายุ 9 ขวบ คุณมองหาสิ่งต่างๆ ในผู้เล่นอายุน้อยที่พวกเขาจะไม่ยอมแพ้ และนั่นคือ คีแรน”

นักเตะที่เปิดบอลดีที่สุด

“เขาเป็นสุดยอดนักเตะกองหลังที่เรามี และนักเตะที่เปิดบอลดีที่สุดนับตั้งแต่ เดวิด เบ็คแฮม ผมไม่โทษใครเลยที่ปล่อยเขาออกไป แต่ผมสงสัยว่ามันจะเป็นการสูญเสียของเราไม่ใช่ของเขา ผมรู้ว่าเขาแตกต่างอย่างมากจากที่เรารู้ตอนนี้” คาเซล ร่ายยาว

ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งในทีม ซิตี้ เมื่อปี 2541 ในวัยเด็กของ คาเซล เคยทำงานด้วยการเป็นพนักงานตัวเล็กๆในร้านรองเท้า ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ที่ใช้ร่วมกันกับชุมชนท้องถิ่น พร้อมกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของ บิวรี แต่ต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควรเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง

ผลงานของ คาเซล ในสถาบันพัฒนาฟุตบอลของ ซิตี้ นั้น ถือว่าสุดยอด เขาผลิตผู้เล่น 39 คน ให้กับทีมชุดใหญ่ของ “เรือใบสีฟ้า” และอีก 25 คนที่ได้ไปเล่นฟุตบอลในต่างประเทศ

ในปี 2008 เด็กๆของ คาเซล ชนะการแข่งขันศึก FA Youth Cup โดยมีนักเตะอย่าง อย่าง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, โจอี บาร์ตัน, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์, แคสเปอร์ ชไมเคิล, ไมเคิล จอห์นสัน, สตีเฟน ไอร์แลนด์ และ เวย์น เฮนเนสซี

นักเตะที่กล่าวมาทั้งหมดทำเงินให้กับ ซิตี้ ไม่มากถึง 60 ล้านปอนด์ ในการย้ายไปสโมสรต่างๆและนับตั้งแต่นั้น ทีมเยาวชนของ “เรือใบสีฟ้า” ยังไม่สารถคว้าแชมป์รายการดังกล่าวได้อีกเลย

คาเซล กล่าวต่อว่า “ผมยังคงภูมิใจเมื่อเห็นผลงานเก่าๆของพวกเขา เพราะเราดันนักเตะเหล่านั้นขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้หลายคน ไมเคิล จอห์นสัน เล่นในทีมชุดใหญ่ตอนนี้ได้แล้ว ทริปเปียร์ ก็ทำได้เช่นกัน และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ยังคงเป็นกองหน้าทีมชาติอังกฤษที่ดีที่สุดที่เรามี วิสัยทัศน์ของเขาสามารถทำประตูได้ทุกรูปแบบ และยังเล่นร่วมกับคนอื่นๆได้”

“อาจเป็นไปได้ว่า เราปล่อยให้ตัวเองไม่ทำงานหนักพอที่จะให้คำปรึกษากับพวกเขา การพัฒนาเยาวชนมันไม่ควรหยุดตามอายุนักเตะ ในด้านของ FA Youth Cup-winning ผมไม่เคยพูดอะไรกับ ดาเนียล ว่าต้องทำสิ่งนี้ ทำสิ่งนั้น”

“ผมแค่จะพูดเบาๆว่า “ผมต้องการให้คุณโชว์ฟอร์มที่ดีคืนนี้” และถ้ามันไม่ดีสำหรับเขา ผมจะย้ายเขาไปรอบๆสนาม เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสม นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาต้องการในบางครั้ง พวกเขาแค่ต้องการคนจัดการที่เหมาะสม ไม่รู้ว่าผู้จัดการทีมชุดใหญ่ต้องการที่จะทำเช่นนั้นหรือไม่ ผมไม่รู้ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาได้รับเงินใช่หรือไม่”

“โจอี บาร์ตัน คุณสามารถเผชิญหน้ากับเขาได้ เขาเป็นคนที่ขี้ยา แต่ก็ไม่เคยประสบปัญหาเลยแม้แต่น้อย ผมรักเขาเพราะเขาแค่อยากเล่นฟุตบอล ผมรู้ว่าเขาจะไปเป็นโค้ช เขาไม่เคยต้องการที่จะพูดคุยเกี่ยวกับสัญญาเลย”

“ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ เหมือนกัน ผมต้องโทรหาแม่ชารอนของเขาและพูดว่า “เขาอายุ 17 แล้วเราต้องพาเขาไปรับปริญญา” พวกเขาเชื่อใจเรา” อดีตหัวหน้าทีมพัฒนาเยาวชน ซิตี้ ร่ายยาว

คาเซล ถูกลดบทบาทใน ซิตี้ ไม่นานหลังจากที่พาทีมชนะในศึก Youth Cup เขาส่งไปยังอาบูดาบีเพื่อดูแลแผนการระยะสั้นของสโมสร และเมื่อเขากลับไปมาที่สำนักงาน “เรือใบสีฟ้า” ในเมืองผู้ดี เจ้าตัวก็ถูกปลดจากตำแหน่งทันที ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าปะหลาดใจอย่างยิ่ง

“ผมรักที่นี่ และจะไม่วิจารณ์สโมสร ผมไม่มีขวานที่จะบดขยี้ สโมสรนั้นทำเพื่อผมมากกว่าที่ผมเคยทำเพื่อมัน และคนอย่าง ฟิลิป โฟเดน ไม่สามารถอยู่ในที่ที่ดีกว่าได้แล้ว เช่นเดียวกับโค้ชทุกคน”

“มีคนบอกว่า พวกเราคิดถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด แต่ไม่ใช่เลย เขาเลือกจะไป ยูไนเต็ด พรสวรรค์คือการเลือกศักยภาพที่ดีที่สุด แมวมองมากเกินไปในความสามารถที่ชัดเจน ทุกคนสามารถทำได้ ไม่ใช่ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนตอนที่พวกเขาอายุ 23 ปี”

“สิ่งสำคัญอันดับแรกของเรา คือ การพัฒนาเกมให้กับสโมสรของเรา และเพื่อประเทศของเราเอง ดังนั้นการเน้นของเราคือ นักเตะอังกฤษก่อนแล้วจึงค่อยมางหานักเตะสหราชอาณาจักร หลังจากนั้นเราจะดูรอบๆประเทศอื่นๆ”

อาซาร์ เป็นหนึ่งในผู้เล่นเป้าหมายของเรา

“เอเด็น อาซาร์ เป็นหนึ่งในผู้เล่นเป้าหมายของเรา เขาเป็นกลุ่มอายุเดียวกันกับ เกร็ก คันนิงแฮม เราได้ เกร็ก แต่ไม่สามารถคว้าตัว อาซาร์ ได้ เพราะพ่อของเขาต้องการบางสิ่งที่พิเศษกว่าที่ผมคิด แต่ เกร็ก ยังอยู่ในพรีเมียร์ลีกกับ คาร์ดิฟฟ์ มันจึงเป็นผลดีกับเรา และสำหรับเขา ผมคิดว่ามันยอดเยี่ยมจริงๆ” คาเซล กล่าว

คาเซล ไม่เคยหาตำแหน่งใหม่ที่สโมสรอื่นๆในพรีเมียร์ลีก เพราะเขาไม่ต้องทรยศกับ ซิตี้ แต่การทำนายลีกเยาวชนยุโรปในปี 2000 ไม่มีใครเชื่อเขาเลย เขารู้สึกว่าตัวเองมีอะไรมากมายที่จะนำเสนอเมื่อเขาก้าวต่อไปจากสิ่งที่เขาเรียกว่าช่องว่างจากการทำงาน

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแปลกที่หนึ่งในสถานศึกษาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษอย่าง ซิตี้ แพ้เกมนี้ไปได้อย่างง่ายดาย

คาเซล กล่าวว่า “ผมไม่คิดว่า ตัวเองจะประสบความสำเร็จมากพอ และมีความกระหายที่จะทำอะไรได้มากกว่านี้ในตอนนี้ เราต้องรักษาความกระหายในเกมทุกระดับ ในฐานะที่เป็นผู้เล่นอายุน้อยคุณจำเป็นต้องมีความกระหายที่จะต่อสู้อยู่ตลอดเวลา บางครั้งคุณต้องเจ็บปวด และรู้สึกผิดหวังบ้าง”

“ทุกวันนี้ ดาวรุ่งตกอยู่ในอันตรายจากความรู้สึกสบายเกินไป ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารที่โรงเรียนดี และมีสิ่งอำนวยความสะดวกดีแค่ไหน คุณรู้ไหมว่าผมต้องการพูดเรื่องอะไร ผู้เล่นของเราดีแค่ไหน ผมไม่ต้องการเงิน ผมแค่อยากให้คนอื่นคิดว่า ผมเก่งในงานของตัวเอง ผู้คนถามผมว่า ผมทำอะไรเพื่อหาเลี้ยงชีพและผมบอกว่า ผมสร้างเศรษฐีขึ้นมา น่าเศร้าที่ผมไม่ใช่คนเดียวที่ทำได้” อดีตทีมงานคนสำคัญของ “เรือใบสีฟ้า” กล่าวทิ้งท้าย