จัสติน ไคลเวิร์ต … กับเส้นทางที่เริ่มหลุดออกจากการเป็นยอดนักเตะ

จัสติน ไคลเวิร์ต ... กับเส้นทางที่เริ่มหลุดออกจากการเป็นยอดนักเตะ

อาร์เยน ร็อบเบน คนต่อไป? จะเก่งกว่าพ่อของเขา? อาจมาพรีเมียร์ลีกเร็ว ๆ นี้? แต่ที่แน่ๆตอนนี้ จัสติน ไคลเวิร์ต ยังไม่ได้มีความใกล้เคียงกับความคาดหวังเหล่านั้นเลย เขาอาจจะสร้างชื่อให้ตัวเองได้ในฐานะปีกดาวรุ่งที่สโมสร อาแจ็กซ์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าวิงเกอร์วัย 22 ปี จะต้องการพิสูจน์ตัวเองให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะกับการย้ายไปเล่นถึงลีกเอิงกับทีม นีซ ด้วยสัญญายืมตัวสำหรับ จัสติน ไคลเวิร์ต โปรไฟล์ของเขานั้นมีอะไรที่น่านใจเยอะมาก แค่เกิดเป็นลูกของคนดังนั้นก็แทบทำให้ตัวของเขาทำตัวลำบากแล้ว โดยตัวของ แพทริค พ่อของเขาเป็นตำนานกองหน้าของทั้ง อาแจ็กซ์, บาร์เซโลน่า และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ และแน่นอนว่ามันย่อมเกิดความคาดหวังมากมายขึ้นมาให้ จัสติน ได้แบกรับแรงกดดันอันมากมายเอาไว้ไม่ว่าจะโดนสื่อเจ้าไหนสัมภาษณ์ คำถามที่จัสตินมักจะถูกถามเสมอก็คือความกดดันเกี่ยวกับเรื่องที่พ่อของเขาเป็นนักเตะดัง เขาจะแบกรับเรื่องนี้ยังไง และน้ำเสียงของเขาเวลาตอบ มันก็ยังคงเหมือนเดิมเสมอ – เขาภูมิใจในนามสกุลนี้ เขามีแรงจูงใจจากสิ่งนั้น และเขาต้องการที่จะเดินตามรอยเท้าพ่อผมต้องการรักษาศักดิ์ศรีของนามสกุล ไคลเวิร์ต เอาไว้เช่นเดิม ผมจะขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดเหมือนพ่อของผม” เขาบอกกับหนังสือพิมพ์ดัตช์ Algemeen Dagblad เมื่อต้นปี 2018 “บางทีผมอาจจะทำได้ดีกว่าพอก็ได้ในอีกหลายปีข้างหน้า”จัสติน ฝึกฝีเท้ามาจาก อาแจ็กซ์ อะคาเดมี่ และได้สอดแทรรกตัวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เช่นเดียวกับพ่อของเขา โดยเขาได้เปิดตัวใน อีเรดิวิชีส์ เป็นครั้งแรกในเดือนมกราคม 2017 ด้วยอายุเพียงแค่ 17 ปีและได้เล่นใน ยูโรป้าลีกอีกด้วย โดยเขาพาทีมอาแจ็กซ์มาถึงรอบชิงชนะเลิศในช่วงกลางปี 2017 แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เล่นในรอบชิงชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแต่สื่อก็ยังจับภาพตอนที่เขากำลังพูดคุยกับ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังเสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้นด้วยผ่านมา 4 ปีหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น และในสัปดาห์นี้ตัวของ ไคลเวิร์ต ที่เพิ่งจะย้ายไปเล่นให้กับ นีซ ก็ยังถูกถามเกี่ยวกับอนาคตของเขาอีกครั้ง โดยที่ Helden สื่อสิ่งพิมพ์จากดินแดนชาวดัตช์ ยังคงถามว่าการที่เขาย้ายไปเล่นในลีกฝรั่งเศสนั้น มันจะทำให้เขาเริ่มเมินเฉยหรือหยุดคิดถึงเรื่องการไปเล่นให้กับทีมใหญ่ๆแล้วใช่หรือไม่ แต่สิ่งที่ ไคลเวิร์ต ตอบกลับมาก็คือ

“ลีกอังกฤษดึงดูดใจผมเสมอครับ อาร์เซนอล,
“ลีกอังกฤษดึงดูดใจผมเสมอครับ อาร์เซนอล, ท็อตแน่ม, เชลซี หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ดีที่ผมสามารถเห็นตัวเองไปเล่นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าได้แน่นอน” เขายังคงมั่นใจ แม้ว่าในเวลานี้ มันอาจจะห่างไกลจากความจริง และเขาเองก้ยังเสริมอีกว่า บาร์เซโลน่า ก็อยู่ใน “ใจ” ของเขาเช่นกัน เพรราะเนื่องจากพ่อของเขาก็เคยทั้งเป็นตำนานนักเตะ และเคยทำงานให้กับสโมสรแห่งนี้เขาอาจมีชื่อเหมือนกัน แต่จัสตินไม่ใช่ผู้เล่นสไตล์เดียวกันกับพ่อของเขา ในขณะที่แพทริคเป็นกองหน้าที่มีร่างกายแข็งแกร่ง สูงใหญ่ แต่ลูกชายของเขากลับมีรูปร่างที่เตี้ยกว่า ตัวเล็กกว่าอย่างชัดเจนมาก และที่สำคัญ เขาเป็นกองหน้ากึ่งปีก และอดีตหัวหน้าอะคาเดมี่ของอาแจ็กซ์อย่าง ปีเตอร์ บอสซ์ เคยกล่าวเอาไว้ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วว่า“ตอนนี้และเขายังเด็กอยู่ก็จริง แต่ผมคิดว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขาคือตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีก เขาสามารถเล่นได้ทั้งสองฝั่งซึ่งก็น่าสนใจเช่นกัน แต่สำหรับตอนนี้เขาไม่ใช่กองหน้าหมายเลข 9”ไคลเวิร์ต ได้กล่าวกับ The Independent ว่าจุดเด่นที่ดีที่สุดของเขาคือเขา “ความเร็ว” และ “ความยืดหยุ่นในการเล่น”

ทักษะการเล่นของเขานั้น
ทักษะการเล่นของเขานั้น เรียกได้ว่ามันเป็นที่ดึงดูดความสนใจจากหลายๆทีมได้มากเลยทีเดียว แมวมองของหลายๆทีมยังจังหวะยิงประตูแรกของเขาก่อนจะกลายเป็นแฮตทริกแรกในชีวิตของเขา ในเกมกับ โรด้า JC ในเดือนพฤศจิกายนปี 2017 ได้อยู่เลย เขาแสดงให้เห็นจุดแข็งของเขาในขณะที่เขาได้สัมผัสบอลจังหวะแรกอันนุ่มนวล จากนั้นเขาก็เริ่มลากตะลุยแหวกกองหลังเข้ายิงเสียวมุมแบบสุดสวอดีตโค้ชอะคาเดมี่ของ อาแจ็กซ์ อย่างตัวของ รูเบน ยองไคนด์ เขามีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับ ไคลเวิร์ต ตั้งแต่ที่ปีกรายนี้ยังเป็นเด็กและอธิบายว่าการเล่นของเขาพัฒนาขึ้นอย่างไร “ผมเริ่มทำงานกับเขาในฐานะโค้ชตอนเขาอายุ 9 หรือ 10 ขวบ และเขาก็มีความสามารถมากเลยนะ โดยเฉพาะกับการเลี้ยงบอล เขาเลี้ยงบอลได้ดี” เขากล่าวกับ Sky Sports“อย่างไรก็ตาม ตอนที่เขาเล่นในทีมรุ่น U14 และ U15 เขาค่อนข้างจะแบกอายุด้วย ดังนั้นตัวผมและวิม ยองก์ (ในฐานะผู้จัดการของอะคาเดมี่) ก็เลยตัดสินใจโน้มน้าวโค้ชของเรา ให้ลองส่งเขาไปลองซ้อมกับทีมชุดใหญ่การเล่นของเขานั้นคาดเดาทิศทางได้ยาก พลิกแพลงตลอด และนอกจากนี้ เขายังสามารถเปิดบอลจากริมเส้นและยิงจากนอกเขตโทษได้ดี เขาฝึกฝนการจบสกอร์ด้วยเท้าทั้งสองข้างด้วยเขาต้องเล่นทั้งด้านซ้าย ด้านขวา และตรงกลาง นอกจากนี้เรายังได้วางโปรแกรมฝึกสมรรถภาพทางกายภาพที่แข็งแกร่งแก่เขาด้วย”เราตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายนั้น ไคลเวิร์ต จะพัฒนาไปในทิศทางไหน แต่เขายังมีเวลามากพอ ในการจะไต่ขึ้นมาเป็นสุดยอดนักเตะแบบที่พ่อของเขาเป็น … เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์