คาเซมิโร่ มิดฟิลด์ลักกี้ประจำทัพชุดขาว “เรอัล มาดริด”

คาเซมิโร่ มิดฟิลด์ลักกี้ประจำทัพชุดขาว “เรอัล มาดริด”

เขาเริ่มสร้างชื่อเสียงขึ้นมาด้วยการเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่มีสไตล์การเล่นแบบฉาบฉวย เขาอาจจะเล่นบอลแรงในหลายจังหวะ บางครั้งก็เล่นแย่งบอลไปจากเท้าคุณได้เนียนๆ ว่ากันว่านักเตะที่เล่นบอลเหมือนคนสองบุคลิกแบบนี้ มันน่ากลัวพอๆกับคนธรรมดาที่มี 2 บุคลิกในคนๆเดียวกัน แน่นอนว่านักเตะจำพวกตัวรุกที่ไม่ค่อยชอบลงมาเล่นเกมรับ ย่อมชอบที่จะมีมิดฟิลด์ตัวรับแบบตัวของ “คาเซมิโร่” คอยไล่ตัดเกมอยู่ด้านหลังให้แน่นอนเขาเคยช่วยให้ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลาลีกา ซานตานเดร์ มาแล้วถึง 2 สมัย และกองกลางชาวบราซิลรายนี้ยังได้กลายเป็นฟันเฟืองสำคัญในตำแหน่งกองกลางตัวห้องเครื่องของเรอัล มาดริด และเรอัล มาดริด ไปอย่างเต็มภาคภูมิแล้ว แฟนบอลทีมอื่นอาจจะเกลียดเขา ที่ขัมกจะเล่นรุนแรงและรอดพ้นใบเหลืองใบแดงได้บ่อยๆ แต่สำหรับแฟนบอลเรอัล นี่คือมิดฟิลด์ตัวรับที่เล่นบอลได้ชัวร์ที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เรามาดูกันว่า ยอดกองกลางตัวรับหมายเลข 14 ของทัพ โลส บลังโกส มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

1. คาเซมิโร่ ลืมตาดูโลกเมื่อ 28 ปีที่แล้วในเมือง เซา โจเซ่ ดอส คัมโปส ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในรัฐเซาเปาโล และที่นี่ เขาก็ได้เติบโตขึ้นมาโดยที่ได้ฝึกฝีเท้ามากับเด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกัน แน่นอนว่าโดยพื้นฐานนั้น คาเซมิโร่ ที่เกิดและเติบโตมาในรัฐเซาเปาโล มันก็ทำให้เขาตามเชียร์สโมสร เซาเปาโล เอฟซี ทีมดังของลีกแซมบ้าที่มีที่ตั้งอยู่ในรัฐนี้ไปโดยปริยาย

2. ความพยายามในการยิงบอลแบบผาดโผนในเกมลีกนัดดาร์บี้แมตช์ ที่เรอัล ได้บุกไปปะทะกับ แอตเลติโก มาดริดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2019 แถมยังยิงเข้าด้วยอีก มันเลยทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นเรอัล มาดริด คนแรกที่ทำประตูที่สนามใหม่ของแอตเลติโก มาดริดอย่าง ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ ได้สำเร็จ

2. ความพยายามในการยิงบอลแบบผาดโผนในเกมลีกนัดดาร์บี้แมตช์

3. แฟนบอลเรอัล มาดริด อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าคุณกำลังเรียกชื่อของเขาแบบ “ผิดๆ” มาโดยตลอด เพราะชื่อเต็มของเขาคือ คาร์ลอส เอ็นริเก้ “คาซิมิโร่” และตอนนี้เขาดันเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า “คาเซมิโร่” ซะแบบนั้น ย้อนกลับไปในสมัยที่ตัวของเขายังเล่นให้กับเซาเปาโล แฟน ๆ ของสโมสรเริ่มเรียกชื่อเขาว่า คาเซมิโร่ ในเกมใดเกมหนึ่ง และหลังจากการแสดงผลงานที่ยอดเยี่ยมในนัดนั้น เขาตัดสินใจแล้วว่านี่คือชื่อที่เหมาะสม ตามที่เขาต้องการที่จะสร้างชื่อให้ตัวเองเป็นที่รู้จัก

4. ลาลีกา ซานตานเดอร์ เป็นสนามรบแห่งแรกของ คาเซมิโร่ ในแผ่นดินยุโรป และกองกลางรายนี้ก็ได้ลงเล่นเปิดตัวให้กับทีมเรอัล มาดริด เป็นครั้งแรกในเดือนเมษายน 2013 โดยเขาสวมเสื้อหมายเลข 38 ลงเล่นจนครบ 90 นาทีเต็ม แถมทีมยังได้ชัยชนะ 3-1 เหนือเรอัล เบติส อีกด้วย

5. ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่นั้น คาเซมิโร่ เคยมีโอกาสร่วมงานกับเพื่อนร่วมทีมบางคนมาตั้งแต่อยู่ในทีมชุดสำรองของมาดริดบ้างแล้วเช่นกัน โดยตามโปรไฟล์นั้น เขามีโอกาสลงเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ชุดคาสติญ่า (ทีมชุดสำรอง) ที่เล่นอยู่ในระดับ ลาลีกา สมาร์ทแบงค์ (ณ เวลานั้น ซึ่งเป็นลีกดิวิชั่น 2 ของสเปนรองจาก ลาลีกา ซานตานเดร์) ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว เขามีโอกาสได้แชร์ห้องแต่งตัวร่วมกับเพื่อนร่วมทีมชุดสำรองที่ต่อมาก็ได้เลื่อนชั้นมาเล่นในทีมชุดแรกเหมือนกัน นั่นก็คือ ลูคัส บาซเกซ แบ็กขวาที่เล่นได้สารพัดตำแหน่ง แต่ก็เอาดีสักตำแหน่งไม่ได้ และนอกจากนี้ยังมี นาโช่ กองหลังชาวสเปนทีเป็น 1 ในทีมเมตจากชุดสำรองที่ได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดแรกด้วยเช่นกัน

ในปัจจุบันตัวของ คาเซมิโร่ ก็ยังคงค้าแข้งกับมาดริดอยู่เช่นเดิม และเขากำลังจะมีลุ้นในการคว้าแชมป์ลาลีกาเป็นสมัยที่ 3 ให้กับตัวเองด้วยถ้าหากว่าทั้ง บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด พร้อมใจกันพลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของเกมลีกที่เหลืออีก 3 นัดเท่านั้น และนอกจากนี้ คาเซมิโร่ ยังหวังที่จะได้ไปคว้าถ้วยแชมป์โคปา อเมริกา กลางปีนี้ในนามทีมชาติบราซิลให้ได้อีกรายการ

ในปัจจุบันตัวของ คาเซมิโร่ ก็ยังคงค้าแข้งกับมาดริดอยู่เช่นเดิม