คาลวิน ฟิลลิปส์ ว่าที่กองกลางตัวรับคนใหม่แห่งทัพ สิงโตคำราม

คาลวิน ฟิลลิปส์ ว่าที่กองกลางตัวรับคนใหม่

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา คาลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางตัวรับดาวรุ่งชาวอังกฤษ ยังคงเล่นอยู่กับทีมชุดเยาชนของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมดังในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ แต่ในปัจจุบันเขาแสดงถึงพรสวรรค์ที่สุดยอด และก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักในทีมชุดใหญ่ของ “ยูงทอง” ภายใต้การคุมทีมของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือชาวอาร์เจนติน่า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ฟิลลิปส์ เคยได้รับโอกาสประเดิมสนามกับ ลีดส์ เป็นครั้งแรกในปี 2014 ในตำแหน่งกองกลาง ในยุคของ นีลล์ เรดเฟิร์น อดีตผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ แต่ภายหลัง บิเอลซ่า เข้ามากุมบังเหียนในถิ่นแอลแลนด์ โร้ด เมื่อปี 2018 นั้น ดาวเตะวัย 23 ปี ถูกจับไปยืนในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับ และก็โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนถึงเวลานี้

การมาถึงของ บิเอลซ่า นั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ ลีดส์ และ ฟิลลิปส์ และการที่เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของ ฟิลลิปส์ นั้น ก็ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องหากเรามองจากฟอร์มการเล่นของเขาในเวลานี้

ฟิลลิปส์ กล่าวกับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “ผมไม่ใช่ผู้เล่นที่ดีที่สุด ผู้จัดการทีมเข้ามาและเลือกผู้เล่นที่เขาต้องการ และเห็นได้ชัดว่า เขาทำได้ดีมากกับในการทำงานกับผม ผมรู้สึกว่า ตัวเองสามารถเล่นที่ไหนก็ได้ในตำแหน่งกองกลาง แต่เขารู้ว่าตำแหน่งไหนดีที่สุดสำหรับผม”

“เขารู้ว่า เขาต้องการให้ผมเล่นที่ไหน ผมคิดว่าด้วยสไตล์ และวิธีการที่เขาสอนผมให้เล่นในตำแหน่งนั้น ผมคิดว่ามันช่วยผมได้มาก เขาทำให้เราฝึกฝนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ทุกวัน เขาทำให้เราดูวิดีโอเกี่ยวกับเกมย้อนกลับไป และบอกเราว่า เราทำอะไรผิดบ้าง และสิ่งใดที่เราทำถูกต้อง แต่ส่วนใหญ่เขาจะมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เราทำผิด เมื่อคุณทำสิ่งที่ถูกต้องคุณรู้ว่าคุณทำได้ดี”

“เขาเป็นคนซื่อสัตย์ และตรงไปตรงมา และเขาสามารถบอกคุณว่า มันคืออะไร และคุณต้องทำอะไรให้ดีขึ้น เขาจะไม่ทำอะไรเลยถ้าไม่มั่นใจในตัวนักเตะว่าทำได้ และถ้าคุณไม่ทำตาม คุณจะถูกลงโทษ แต่ถ้าคุณทำได้ดีผลลัพธ์ที่ดีก็จะมา” เด็กปั้น “ยูงทอง” กล่าว

สำหรับ ฟิลลิปส์ ผลลัพธ์มีมากมาย ก่อนเกมลีกกับ เรดดิ้ง เมื่อวันที่ 26 พฤศจริการยนที่ผ่านมานั้น ถ่ายทอดสดบนสกายสปอร์ตสปอร์ติ้งแสดงให้เห็นว่า เขาได้ฝึกซ้อมมากกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ และได้สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมอีก 5 ครั้งในปีนี้ ซึ่งกว่าที่เขาทำในฤดูกาลที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ฟิลลิปส์ จดจ่อกับงานที่ทำอยู่มากจนเราสามารถสังเกตเห็นตัวเลขที่มาพร้อมกับการเล่นที่ช่วยให้ ลีดส์ เป็นอันดับ 2 ในตารางคะแนนศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ โดยมีแต้มตามหลังทีมจ่าฝูงอย่าง เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน ภายใต้การคุมทีมของ สลาเวน บิลิช เทรนเนอร์ชาวโครแอต เพียง 2 แต้มเท่านั้น

ฟิลลิปส์ กล่าวต่อว่า “บิลลี่ เบรมเมอร์ เป็นกัปตันทีมของ ลีดส์ ที่ประสบความสำเร็จมากมาย เขาตัวเล็ก แต่มีมีความเป็นนักสู้ และนั่นคือสิ่งที่ผมชอบ และทำตาม เขาไม่เคยโดนรังแกจากนักเตะทีมอื่นเลย เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ผมเงยหน้าขึ้นมามอง และคิดว่า ผมชอบที่จะเป็นเหมือนเขา”

“ตอนที่ผมยังเด็ก ผมมักจะเป็นคนที่อยู่ติดกับแม่และยายของผมเสมอ พวกเขาเคยมาดูผมเล่นฟุตบอล และเพื่อให้แน่ใจว่า ผมจะไม่ปล่อยให้ใครมาผลักผม และไม่ให้ใครกลั่นแกล้งผม ผมเป็นคนที่สู้คนในบางกรณีถ้าหากผมไม่ใช่ฝ่ายผิด”

“ผมเป็นคนที่ควบคุมความรู้สึกได้เพียงเล็กน้อย ผมคิดว่า บางเกมตัวเองเล่นเบาไปหน่อย ผมแค่รู้สึกว่าเมื่อผมเจอทีมอื่น ผมจะดูผู้เล่นที่เก่งที่สุดเสมอ และผมจะคิดว่า ถ้าผมสามารถหยุดสิ่งเหล่านี้ที่พวกเขากำลังทำอยู่ มันก็จะเป็นการช่วยทีม” มิดฟิลด์ ลีดส์ กล่าว

ฟิลลิปส์ เป็นส่วนหนึ่งในทีม ลีดส์ ที่แพ้ ดาร์บี้

ฟิลลิปส์ เป็นส่วนหนึ่งในทีม ลีดส์ ที่แพ้ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในรอบเพลย์ออฟหาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา และในฤดกาลนี้ เขาตั้งใจว่า จะพาพลพรรค “ยูงทอง” กลับไปเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีให้ได้อีกครั้งแบบอัตโนมัติ หลังตกชั้นมาตั้งแต่ปี 2004

ฟิลลิปส์ กล่าวต่อว่า “เมื่อเราทำได้ดีตลอดทั้งฤดูกาล และจากนั้นเรานำ 1-0 ในเลกแรก มันยากที่จะคิดเกี่ยวกับสถานการณ์เหล่านั้น แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว และมันทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น แต่ในปีนี้การคว้าแชมป์ยังคงเปิดกว้าง”

“มันจะเป็นช่วงเวลาที่คึกคักในช่วงคริสต์มาส และเราจะมองว่า หากทำได้ดีในช่วงเวลานั้น มันอาจจะเห็นบางจุดที่ชัดเจน เราตามจ่าฝูงแค่ 2 คะแนน เราสามารถเอาชนะใครก็ได้ และตราบใดที่เราไม่แพ้ทีมทีมอื่นๆ เราก็มีลุ้น”

“ผมคิดว่าปีนี้เราจะได้เลื่อนชั้น นั่นคือเป้าหมายสูงสุด ผมไม่คิดว่าจะมีทีมใหญ่เท่าเราที่ไม่ได้อยู่ในพรีเมียร์ลีก อีกแล้ว ผมคิดว่า เมื่อเราเข้าไปถึงจุดนั้น เราจะต้องสร้าง ลีดส์ ที่แข็งแกร่งขึ้นมา ซึ่งเราเคยเป็นทีมที่เคยต่อสู้เพื่ออันดับสูงๆในพรีเมียร์ลีก และหวังว่า เราจะก้าวถถึงจุดนั้นได้”

“ครอบครัวของผมเป็นแฟน ลีดส์ พวกเขามักจะบอกผมเสมอเกี่ยวกับเวลาที่ ลีดส์ เคยเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก ผมอยู่ที่นี่มา 10 ปีแล้ว และคุณมีคนที่อยากให้ ลีดส์ กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก อีกครั้ง แม้แต่แฟนบอลจากทีมอื่น ๆเองก็ตาม”

“มันจะเป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจสำหรับผม และมันเป็นการก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวสำหรับเมืองนี้ ผมคิดว่า มันจะนำทั้งเมืองมารวมกัน ผมคิดว่า อังเดร ราดริซซานี่ ประธานสโมสรลีดส์ ทำได้ดีมาก เขาทำให้ ลีดส์ กลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นอีกครั้ง”

“ผมไม่เคยรู้สึกสบายใจมากเท่านี้ ดังนั้น ผมจึงต้องการทำสิ่งที่ดีกว่าเสมอ ผมเป็นคนแบบนั้น ผมไม่ชอบที่จะมีความสุขกับสิ่งที่ผมทำตอนนี้ ผมอยากทำมากกว่านี้ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้จัดการทีมเช่นกัน เขาไม่เคยต้องการให้คนอื่นผ่อนคลายเกินไป เขาต้องการให้เรามีสติอยู่เสมอ เรากำลังทำงานเพื่อสิ่งที่พิเศษ และผมเชื่อว่าเรากำลังทำเช่นนั้น” แข้งวัย 23 ปี กล่าว

ช่วงเวลาส่วนตัวที่พิเศษเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วเมื่อ ฟิลลิปส์ ทำประตูให้ ลีดส์ เอาชนะ เบอร์มิงแฮม 1-0 โดยเจ้าตัวเล่าถึงความรู้สึกในเวลานั้นว่า “มันเป็นเพียงความรู้สึกมหัศจรรย์มาก และผมไม่คิดว่าผมจะสามารถทำเช่นนั้นได้”

เมื่อพูดถึงเรื่องการติดทีมชาติอังกฤษ ฟิลลิปส์ ก็ยืนยันว่า มันเป็นความใฝ่ฝันของเขาอยู่เสมอ โดยผู้เล่นอย่าง เมสัน เมาท์ กองกลางดาวรุ่ง เชลซี ที่ เคยมาเล่นกับ ดาร์บี้ ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อปีที่ผ่านมา และเคยเผชิญหน้ากับ ฟิลลิปส์ ในสนามนั้น ก็ถูกเรียกตัวไปติดทัพ “สิงโตคำราม” ในปีนี้เรียบร้อยแล้ว

กองกลาง ลีดส์ กล่าวว่า “ผมไม่คิดว่า มันจะเกิดขึ้นได้ในเร็วๆนี้ ผมดูทีมชาติอังกฤษแข่งขันอยู่เสมอ และพยายามทำให้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ผมคิดว่า ผมสามารถเล่นให้กับอังกฤษได้ แต่ด้วยการทำงานที่ยอดเยี่ยมของคุณ และการได้รับรางวัลด้วยการถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษนั้น ผมรู้ว่า ผมต้องตั้งใจเล่นต่อไป และหวังว่าสักวันผมอาจจะทำได้”

ฟิลลิปส์ ก็ยืนยันว่า มันเป็นความใฝ่ฝันของเขาอยู่เสมอ