คริส วอดเดิ้ล ปีกระดับโลกผู้ไม่จำเป็นต้องเริ่มอาชีพตั้งแต่อายุน้อยๆ

ถ้าหากว่าเรานึกถึงนักเตะสไตล์ปีกที่ลากตัดเข้าในเพื่อหาจังหวะสร้างเกมรุก หรือหาจังหวะทำประตูด้วยลูกยิงปั่นโค้งสวยๆล่ะก็ เราอาจจะนึกถึงยอดปีกที่เลิกเล่นไปแล้วหลายๆคน โดยเฉพาะกับ อาร์เยน ร็อบเบน ที่สร้างชื่อมาจากเรื่องนี้เป็นอย่างมากแต่ว่าในอดีตเมื่อช่วงกลางยุค 80 จนถึงช่วงกลางยุค 90 มีปีกดาวดังอยู่รายหนึ่งที่กล่าวได้เลยว่านี่เป็นอดีตนักเตะระดับโลกชาวอังกฤษที่เล่นตำแหน่งปีก แต่กลับมีสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนใครในอดีตนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นปีกชาวเกาะสหราชอาณาจักร หรือเล่นในอังกฤษ ถ้าจะพูดถึงปีกก็ต้องเป็นปีกโบราณที่เน้นความเร็วและโยนบอลโด่งเข้ากลางเมื่อเลี้ยงบอลถึงสุดเส้นหลัง แต่ปีกที่ชื่อว่า “คริส วอดเดิ้ล” กลับไม่ได้เป็นนักเตะแบบนั้น เขาเป็นปีกในยุค 80 แต่กลับเล่นบอลได้อินเทรนด์ราวกับว่าเขาเป็นนักเตะในยุคโมเดิร์นที่ย้อนเวลาไปเล่นบอลในยุคสมัยดังกล่าวเลยทีเดียว และทำไมเขาถึงไม่เหมือนใครกันล่ะ !

เล่นบอลฝั่งตรงกันข้ามกับเท้าถนัด

ปกตินั้นนักเตะที่เล่นปีก ถ้าหากถนัดท้าข้างไหนก็จะเล่นฝั่งเดียวกับเท้าที่ถนัดเพื่อเน้นในการเปิดบอลเข้ากลาง ไม่ต้องมีเทคนิคอะไรมาก อย่างเช่นถ้าหากถนัดขวาก็จะเล่นปีกขวา แต่มันไม่ใช่กับ วอดเดิ้ล ตำนานนักเตะผมหางกระรอกรายนี้ เขาเป็นนักเตะถนัดเท้าซ้ายโดยธรรมชาติ แต่เขากลับไม่ได้ชื่นชอบในการเล่นฝั่งเดียวกับเท้าข้างถนัดเท่าไหร่ เขาเลือกที่จะโยกไปเล่นทาง “ฝั่งขวา” เพื่อให้เจ้าตัวมีโอกาสโชว์ทักษะในการเล่นบอลที่อัดแน่นอยู่ในตัวเขาได้มากขึ้นต่อให้ถนัดซ้าย แต่เขาก็สามารถใช้เท้าขวาในกาหลอกเปิดบอลหรือยิงประตูได้ด้วย เขามักจะชอบลากบอลตัดเข้าในเพื่อหาจังหวะจ่ายบอลและยิงประตูสวยๆได้เป็นประจำ

ไม่มีความเร็ว แต่มีเทคนิคจี๊ดจ๊าดอย่างไม่น่าเชื่อ

วอดเดิ้ลไม่ใช่ปีกที่มีความเร็วจัดจ้าน ไม่ได้เร็วปานพายุตามแบบฉบับที่ปีกในยุคนั้นมักจะมีกัน เขาอาศัยเทคนิคการเล่นเฉพาะตัวที่สวยๆในการเอามาใช้ต่อสู้กับฟูลแบ็กฝั่งตรงข้าม เขามักจะสับขาหลอก ใช้ลูกเล่นหรือทริกที่พิสดารออกมาใช้หลอกล่อให้นักเตะฝ่ายตรงข้ามต้องหัวหมุนสุดๆ แต่ยามจะต้องเปิดบอลตามหน้าที่ของปีกที่ฝังตัวมา เขาก็สามารถโยนบอลได้อย่างแม่นยำ หรือกระทั่งการปั่นโค้งเสียบเสาไกลและเล่นลูกฟรีคิกก็ยังสามารถทำได้ดีเลยทีเดียว

ใจเด็ดพอที่จะย้ายไปเล่นยังลีกต่างแดน

 

ว่ากันว่าในสมัยก่อนนั้น นักเตะชาวอังกฤษไม่ค่อยจะอยากย้ายไปเล่นยังลีกต่างแดนเท่าไหร่ ซึ่งก็ด้วยหลายๆปัจจัย และแน่นอนว่า วอดเดิ้ล กล้าที่จะทำลายความคิดโบราณๆของนักเตะอิงลิชชนยุคก่อนๆ โดยเขาเลือกที่จะย้ายออกจากทีม ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ส ออกไปกอบโกยความสำเร็จใน ลีกเอิง ด้วยการค้าแข้งกับสโมสร โอลิมปิก มาร์กเซยในช่วงที่ วอดเดิ้ล ย้ายมาสู่ถิ่น สต๊าด เวโลโดรม เขาได้กลายเป็นโคตรปีกขวาถนัดซ้ายขวัญใจแฟนบอล ได้เล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมที่เป็นนักเตะระดับโลกมากมาย โดยเฉพาะกับ อเบดี เปเล่ ตำนานดาวยิงทีมชาติกาน่าที่เป็นหมายเลข 10 ของทีม หรือกระทั่งมีตัวของ ฆอร์เก้ เบอร์รูชาก้า ตำนานมิดฟิลด์ตัวรุกดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก 1986 มาร่วมทัพอีกด้วยวอดเดิ้ล ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ ลีกเอิง ได้มากถึง 3 สมัยติดต่อกัน และยังจัดได้ว่าเป็นักเตะอังกฤษคนแรกที่ได้แชมป์ลีกเอิงติดต่อกัน 3 สมัยอีกด้วย

เริ่มต้นอาชีพช้า แต่ก็ “ช้าๆได้พร้าเล่มงาม”

ปกตินั้นนักเตะอาชีพชื่อดังหลายๆคน มักจะเริ่มต้นอาชีพมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะเยาวชนของอคาเดมี่ต่างๆ แต่วอดเด้ลนั้นไม่ใช่ เพราะเขาเริ่มต้นงานด้วยการเป็นพนักงานในโรงงานผลิตไส้กรอก และยังเตะบอลในทีมระพับมือสมัครเล่นเพื่อพัฒนาตัวเองไปด้วย โดยในวัย 20 ปีนั้นในช่วงเวลาทำงานในโรงงานดังกล่าวเพร้อมกับเตะบอลพาร์ทไทม์ไปด้วย เขาก็ได้รับการทาบทามจากทีมแมวมองของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่บังเอิญมาเห็นฝีเท้าของเขาในการลงเล่นในระดับซันเดย์ลีกพอดี และนั่นก็คือก้าวแรกของเขาในการเล่นระดับมืออาชีพ