มนุษย์น้ำแข็ง กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน (Gylfi Sigurdsson)

มนุษย์น้ำแข็ง กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน

กิลฟี่ ธอร์ ซิกูร์ดส์สัน เกิดวันที่ 8 กันยายน 1989 เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวไอซ์แลนด์ โดยลงสนามเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ให้ เอฟเวอร์ตัน และทีมชาติไอซ์แลนด์

กิลฟี่ ได้ลงสนามในฟุตบอลอาชีพพับ เร้ดดิ้ง ในฟุตบอลแชมเปี้ยนชิพ เมื่อปี 2010 โดยถูกขายไปให้กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ที่ทำให้ เร้ดดิ้ง ขายนักเตะด้วยค่าตัวแพงที่สุด เขาได้รับการโหวตว่าเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของฤดูกาลสองปีติดต่อกัน เมื่อเล่นให้ เร้ดดิ้ง เมื่อปี 2009/10 และ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เมื่อฤดูกาล 2010/11 หลังจากนั้นเขาย้ายมาเล่นให้ สวอนซี ซิตี้ และย้ายมาเล่นให้ สเปอร์ส ด้วยค่าตัวย้ายทีม 8 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2014 เขาย้ายกลับ สวอนซี โดยเป็นส่วนหนึ่งการแลกเปลี่ยนตัวกับ เบน เดวีส์

กิลฟี่ ได้ลงสนามให้ทีมชาติชุดใหญ่ของไอซ์แลนด์ เมื่อปี 2010 โดยถึงเวลานี้เขาลงสนามกว่า 60 เกม เขาเล่นให้ไอซ์แลนด์ในฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์ใหญ่เป็นครั้งแรก คือฟุตบอลยูโร 2016 พาทีมเข้าไปถึงรอบควอเตอร์ไฟนอล และยังได้ลงเล่นในรายการฟุตบอลโลก 2018 ด้วย

ระดับสโมสรตั้งแต่เริ่มต้น

เร้ดดิ้ง

เกิดที่เมืองเรกยะวิก กิลฟี่ ลงสนามให้ทีมบ้านเกิดเอฟเอช ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีม ไบรดาบิก และติดทีมชาติไอซ์แลนด์ ยู17 เขาได้ลงสนามแบบทดสอบนักเตะกับ เปรสตัน นอร์ทเอนด์ ก่อนที่จะเซ็นสัญญาย้ายทีมมาที่ เร้ดดิ้ง อคาเดมี่ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2005 เขาเล่นให้ทีมเยาวชนของ เร้ดดิ้ง กว่า 3 ปีและทีมสำรองของ เร้ดดิ้ง ก่อนที่ฤดูกาล 2007/08 เขาและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นก็ได้เซ็นสัญญาขึ้นมาเป็นนักเตะอาชีพกับทีม

ฤดูกาล 2008/09

เริ่มต้นที่ฤดูกาล 2008/09 กิลฟี่ สวมเสื้อหมายเลข 34 ให้ เร้ดดิ้ง โดยที่เขาไม่ได้เป็นตัวสำรองที่ลงสนามเกมที่ชนะ ดาเก้นแน่ม แอนด์ เร้ดบริดจ์ โดยในรอบแรกที่ฟุตบอลลีกคัพ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม และสองสัปดาห์ต่อมาเขาได้ลงสนามเมกที่แข่งกับ ลูตัน ทาวน์ โดลงสนามมาเป็นตัวสำรองแทนที่ของ เจมส์ ฮาร์เปอร์ นาที 59 เกมนั้น เร้ดดิ้ง ชนะ 5-1 ที่มาเด็จสกี้ สเตเดี้ยม เขายิงประตูให้ทีม เร้ดดิ้ง จากลูกโทษได้ด้วย เกมนั้นทีมไปเยือนและแพ้ต่อ สโต๊ค ซิตี้ ในลีกคัพรอบที่สามโดยถูกส่งลงไปเป็นตัวสำรอง

จากนั้นเขามีประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่ เมื่อ กิลฟี่ ได้เซ็นสัญญากับ ชรูวส์บิวรี่ โดยเซ็นสัญญายืมตัวหนึ่งเดือน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม อีกสองวันต่อมาเขายิงประตูเกมลีกที่พบ บอร์นมัธ และชนะได้ 4-1 ที่สนามมิโดว์ เลน ที่ทำให้เขาได้ลงสนามกว่า 6 นัดในเกมกับ ชรูวส์บิวรี่ ซึ่งเขายิงประตูได้หนึ่งลูกด้วย ต่อมาเขากลับสู่ เร้ดดิ้ง และเกมแรกที่ลงสนามเขาแพ้ต่อ คาร์ดิฟฟ์ ในฟุตบอลเอฟเอคัพรอบที่ 3 ในวันที่ 3 มกราคม 2009 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ เขาร่วมทีม ครูว์ อเล็กซานดร้า ด้วยสัญญายืมตัวอย่างเร่งด่วน อีกสองวันต่อมาเขาได้ลงสนามไปเยือน ไบรท์ตัน และยิงประตูได้นาที 89 เกมนั้นทีมชนะได้ 4-1 วันที่ 24 มีนาคม เขาได้ขยายสัญญายืมตัวไปจนจบฤดูกาล เขายิงได้เพิ่มอีกสองประตูให้ ครูว์ เกมที่แข่งกับ เอ็มเค ดอนส์ และ เชลท์แน่ม ตามลำดับ แต่ก็ไม่อาจช่วยทีมรอดพ้นการตกชั้นได้

ระดับสโมสรตั้งแต่เริ่มต้น กิลฟี่

ฤดูกาล 2009/10

กิลฟี่ ได้ยิงประตูแรกให้ เร้ดดิ้ง ในเกมที่พบกับ เบอร์ตัน อัลเบี้ยน จากระยะ 35 หลา ในเกมฟุตบอลลีก คัพรอบแรกในเกมที่เสมอในบ้าน เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2009 เขายิงประตูแรกในฟุตบอลลีกเกมที่ เร้ดดิ้ง ชนะ ต่อ ปีเตอร์โบโร่ ได้ 3-2 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2009 กิลฟี่ เป็นนักเตะคนสำคัญของทีม เร้ดดิ้ง ในเกมเอฟเอคัพ โดยเฉพาะเกมที่แข่ง ลิเวอร์พูล เบิร์นลี่ย์ และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน วันที่ 13 มกราคม 2010 ในฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบสาม ที่แข่งกับ ลิเวอร์พูล เขายิงประตูจากลูกโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยให้สกอร์กลับมาเสมอกันที่ 1-1 และต้องต่อเวลาพิเศษออกไป ต่อมา เร้ดดิ้ง เอาชนะในเกมนั้น 2-1

เขายิงประตูชัยนาทีที่ 87 เกมที่พบ เบิร์นลี่ย์ ในรอบที่ 4 ส่วนในรอบที่ 5 เขายิงประตูชัยเกมที่พบ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-2 ในช่วงต่อเวลา 120 นาที ในเดือนเมษายน 2010 เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกแชมเปี้ยนชิพเมื่อเดือนมีนาคม โดยที่นักเตะที่เป็นอันดับรองลงมาคือ ปีเตอร์ โลเวนครานด์ ของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แกรม ดอร์แรน กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และ อเดล ทารับต์ กับ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส โดยเขายิงได้ 5 ลูกใน 6 เกมในเดือนนั้น วันที่ 2 พฤษภาคม เขายิงประตูได้อีกครั้งเกมที่พบ เปรสตัน นอร์ทเอนด์ ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายของฤดูกาล ก่อนที่ต่อมาเขาจะได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร ประจำฤดูกาล 2009/10 เอาชนะการโหวตเหนือ จิมมี่ เคมเบ้ และ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ที่จบอันดับสองและสามตามลำดับ

กิลฟี่ จบฤดูกาลด้วยการยิง 20 ประตูใน 44 นัด ในทุกรายการ โดยที่เขาเล่นได้อย่างสุดยอด ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก และได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกหลายทีมด้วยความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเขา แต่เขายอมรับว่าอนาคตเขาฝากอยู่กับ เร้ดดิ้ง โดยเขาเซ็นสัญญากับทีมออกไปอีก 3 ปี ในเดือนพฤษภาคม 2010

ฤดูกาล 2010/11

กิลฟี่ ยิงประตูแรกได้ในฤดูกาล 2010/11 เป็นนัดแรกของฤดูกาล เมื่อเลี้ยงบอลผ่านนักเตะคู่แข่งสองคน ยิงประตูระยะ 25 หลา เป็นประตูที่ตีเสมอก่อนแพ้ต่อ สคันธอร์ป คาบ้าน 2-1 วันที่ 25 สิงหาคม เขาชิพบอลระยะจ่อๆ นาที 22 เกมเยือน เลสเตอร์ หลังจบเกม เขาก็ได้เดินทางไปตรวจร่างกายกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ วันที่ 31 สิงหาคม เขาไปร่วมทีมลีกเยอรมัน และมีรายงานว่าทีมได้รับเงินค่าตัวเป็นสถิติ (มากกว่า 6.5 ล้านปอนด์) ที่เคยขายเควิน ดอยล์ออกไป

กิลฟี่ ย้ายไป ฮอฟเฟ่นไฮม์

ฮอฟเฟ่นไฮม์

เขาได้ลงสนามกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เกมแรกวันที่ 10 กันยายน 2010 โดยลงสนามมาเป็นตัวสำรองเมื่อเหลืออีก 13 นาที เกมนั้นทีมชนะ ชาลเก้ 2-0 หนึ่งสัปดาห์ต่อมา เขายิงประตูแรกให้กับทีมเป็นเกมที่เสมอ 2-2 ต่อ ไกเซอร์สเลาเทิร์น โดยเขาลงสนามนาที 77 โดยการสัมผัสบอลเพียงครั้งแรกเท่านั้น เมื่อทีมได้ฟรีคิกระยะ 20 หลา ช่วยให้ทีมตีเสมอได้ ประตูที่สองของเขาเกิดจากลูกฟรีคิก จากระยะ 25 หลา เป็นเกมเยือนแพ้ ไมนซ์ 4-2 เขายิงเพิ่มได้อีก 2 ลูกเกมที่ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เปิดบ้านชนะ ฮันโนเวอร์ อีกหนึ่งลูกเป็นการยิงลูกโทษ ต่อมาวันที่ 25 พฤษภาคม 2011 เขาได้รับการโหวตจากแฟนบอล ฮอฟเฟ่นไฮม์ ให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของฤดูกาล ทั้งที่ลงสนามให้ทีมเพียงแค่ 13 เกม และฤดูกาลนั้นเขายิงได้ 10 ลูก และ 2 แอสซิสต์

ระหว่างครึ่งฤดูกาลแรกของฤดูกาล 2011/12 กิลฟี่ ไม่เป็นที่โปรดปรานของผู้จัดการทีมคนใหม่ โดยที่ได้ลงสนามเพียงแค่ 7 เกม และมีข่าวลือว่าต้องการจะย้ายทีม

ย้ายแบบยืมตัวไปที่ สวอนซี

วันที่ 1 มกราคม 2012 มีการประกาศว่า กิลฟี่ ซิกูร์ดสส์สัน ย้ายไปร่วมทีม สวอนซี ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล เขาได้ประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีกให้ สวอนซี เมื่อวันที่ 15 มกราคม โดยเขาได้ลงสนามมาในครึ่งหลัง และช่วยทีมชนะ 3-2 เกมที่มีชัยเหนือ อาร์เซน่อล 3-2 วันที่ 4 กุมภาพันธ์ เขายิงประตูแรกให้ทีมเกมที่ชนะเหนือ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 ต่อมาเขายังจ่ายบอลให้ แดนนี่ เกรแฮม โดยเป็นการจ่ายแอสซิสต์ครั้งที่ 3 ในรอบ 4 วัน วันที่ 3 มีนาคม เขายิงได้สองประตูเกมที่มีชัยเกมเยือนเหนือ วีแกน แอธเลติก โดยยิงประตูจากฟรีคิก อีกสองสัปดาห์ต่อมาเขายิงประตูได้ เกมที่ไปเยือนชนะ ฟูแล่ม 3-0 กิลฟี่ ยิงประตูได้อีกในเกมที่ ไวท์ ฮาร์ท เลนเกมนั้นทีมแพ้ต่อ สเปอร์ส 3-1 เมื่อวันที่ 1เมษายน

ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขา กิลฟี่ ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของเดือนมีนาคม และเขาเป็นนักเตะชาวไอซ์แลนด์คนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ ต่อมาเขายิงประตูเกมที่ชนะเหนือ แบ็คเบิร์น โรเวอร์ส ให้ทีมเก็บได้ถึง 42 แต้ม

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม สวอนซี ซื้อตัว กิลฟี่ จาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ ด้วยค่าตัว 6.8 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสัญญาถาวร ต่อมาเขาผ่านการตรวจร่างกายอย่างไรก็ตามผู้จัดการทีม แบรนดอน ร็อดเจอร์ส ย้ายไปอยู่ ลิเวอร์พูล ทำให้อนาคตของเขาที่ สวอนซี ดูจะไม่แน่นอนเท่าไหร่ โดยเขาลงสนามช่วงที่ยืมตัวที่ สวอนซี โดยลงสนาม 18 นัดในพรีเมียร์ลีกยิงได้ 7 ลูกและทำได้กว่า 4 แอสซิสต์

สเปอร์ส

วันที่ 4 กรกฎาคม 2012 กิลฟี่ ย้ายจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ เข้าร่วมทีม สเปอร์ส ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ เขาเซ็นสัญญาเข้าสู่ทีมของ อังเดร วิลลาส โบอาช เป็นคนแรก วันที่ 18 กรกฎาคม เขายิงลูกแรกให้สโมสร เกมที่พบ สตีฟเนจ หลังถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง วันที่ 26 กันยายน เขายิงประตูจากเกมทางการในฟุตบอลลีกคัพรอบที่สาม เกมที่ไปเยือนพบ คาร์ไลส์ เกมนั้นทีมชนะ 3-0

ไบรอัน แม็คเดอร์ม็อตต์ กล่าวยื่นซื้อ กิลฟี่ ถึงสามครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ในช่วงเดือนมกราคม 2013 โดยยื่นข้อเสนอกว่า 10 ล้านปอนด์ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ เขายิงลูกแรกในพรีเมียร์ลีกให้ สเปอร์ส เป็นลูกที่สองซึ่งเกมนั้นทีมชนะ เวสต์แฮม 3-2 และนัดต่อมาที่เปิดศึก นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ชนะ อาร์เซน่อล 2-1 เขาจ่ายบอลให้ แกเร็ธ เบล ยิงประตู

ฤดูกาล 2013/14 เขายิงประตูเกมที่ชนะ นอริช 2-0 วันที่ 14 กันยายน 2013 ทำให้ทีมตราไก่ ขึ้นสู่รองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ยิงประตูเกมเปิดบ้านเสมอ เชลซี 1-1 วันที่ 28 กันยายน 2013

กิลฟี่ย้ายมาสวอนซี

สวอนซี (ครั้งที่สอง)

เดือนกรกฎาคม 2014 สเปอร์ส ประกาศว่า กิลฟี่ จะย้ายไปร่วมทีม สวอนซี สลับกับ เบน เดวี่ส์ ที่ย้ายมาที่ สเปอร์ส เกมเปิดฤดูกาล 2014/158 เขายิงสองประตูให้ทีมชนะ แมนยู 2-1 ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกที่ทีม ปีศาจแดง ต้องแพ้นัดเปิดฤดูกาลนับตั้งแต่ปี 1972 ต่อมาเขาจ่าย 3 แอสซิสต์ในสองเกม หนึ่งในนั้นคือเกมที่เปิดบ้านพบ อาร์เซน่อล วันที่ 9 พฤศจิกายน 2014 เขาปั่นฟรีคิกข้ามกำแพงเข้าไปที่ซุกก้นตาข่าย ในระยะ 25 หลาและสุดท้ายทีมชนะได้ 2-1 ต่อมาเขายิงประตูเกมที่ชนะ ลิเวอร์พูล 4-1 ที่แอนฟิลด์ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม

วันที่ 17 มกราคม 2015 เขาจ่ายบอลกลับหลังพลาดทำให้ ออสการ์ ของ เชลซี ยิงประตูหลังเกมเริ่มเพียง 50 วินาที เกมนั้นทีม หงส์ขาว เปิดบ้านแพ้ เชลซี 0-5 สัปดาห์ต่อมา เขายิงประตูและถูกไล่ออกช่วงทดเวลาเกมชนะ แบล็คเบิร์น 3-1 ในเอฟเอคัพรอบ 4 ทั้งที่ทีมเหลือ 10 คน ตั้งแต่ต้นเกมเพราะ ไคล์ บาร์ทลี่ย์ ถูกไล่ออก

เอฟเวอร์ตัน

วันที่ 16 สิงหาคม 2017 กิลฟี่ เซ็นสัญญาร่วมทีม เอฟเวอร์ตัน ด้วยการเซ็นสัญญามาร่วมทีมค่าตัว 40 ล้านปอนด์ (และค่าตัวอาจจะเพิ่มขึ้นมาอีก 5 ล้านปอนด์) ซึ่งจะทำให้เป็นสถิติของสโมสรอีกด้วย วันที่ 24 สิงหาคม 2017 เขายิงประตูแรกให้ เอฟเวอร์ตัน หลังจากที่ได้ลงสนามเต็มเกม 90 นาที ซึ่งเป็นการยิงประตูระยะกว่า 50 หลาในฟุตบอลยูโรป้าลีก รอบเพลย์ออฟ เลกที่สองเกมที่แข่งกับ ไฮจ์ดุ๊ก สปลิท ต่อมาวันที่ 26 พฤศจิกายน 2017 เขายิงประตูในพรีเมียร์ลีกเป็นลูกแรก ในสีเสื้อของ เอฟเวอร์ตัน เกมที่แข่งกับ เซาแธมป์ตัน ที่แพ้ 1-4 วันที่ 2 ธันวาคม 2017 เขามีชื่อเป็นผู้ทำประตูเกมที่ชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ เขาจบฤดูกาล 2017/18 ด้วยการยิง 6 ประตู และ 5 แอสซิสต์ ลงสนามไป 31 นัด

เขาออกสตาร์ทฤดูกาล 2018/19 ให้กับ เอฟเวอร์ตัน โดยเป็นการจ่ายบอลให้ ไมเคิล คีน เกมกระชับมิตรที่พบ บาเลนเซีย เกมนั้นทีมแพ้ 2-3 วันที่ 29 กันยายน 2018 เขายิงประตูแรกให้ทีมในฤดูกาล ในชัยชนะเหนือ ฟูแล่ม 3-0 วันที่ 26 ธันวาคม 2018 เขาแอสซิสต์และยิงประตูจากลูกโทษในเกมที่ชนะเหนือ เบิร์นลี่ย์ 5-1

ย้ายมาเอฟเวอร์ตัน

ระดับทีมชาติ

กิลฟี่ มีชื่อเป็นส่วนหนึ่งของรายการยูโร 2008 ยู19 เขายิงได้สองประตูในรอบคัดเลือกและยิงได้สองประตูในรอบสุดท้าย แต่ว่าไอซ์แลนด์ต้องแพ้ต่อบัลแกเรียทีมแชมป์กลุ่ม ทำให้ทีมคะแนนตามหลังสามแต้มและชวดเข้ารอบชิงชนะเลิศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2007 เขาได้ลงสนามเป็นเกมแรกให้ไอซ์แลนด์ ยู21 โดยลงสนามไป 30 นาทีเกมที่แพ้ต่อเยอรมัน 0-3 (เกมอุ่นเครื่อง) เขาได้ลงสนามเกมฟุตบอลยูโร ยู21 รอบคัดเลือก ในอีก 4 วันต่อมา โดยลงสนามมาช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาที และเล่นนัดที่เหลือในรายการนั้น และนัดสุดท้ายที่พบสโลวะเกีย เขายิงประตูเบิกร่องแต่สุดท้าย ทีมได้แค่เสมอ 1-1 เดือนตุลาคม 2011 เกมที่ไอซ์แลนด์ แข่งกับ ซาน มาริโน่ เขายิงประตูใน 16 นาทีช่วยให้ทีมชนะคู่แข่ง 6-0

เดือนพฤษภาคม 2010 เขาได้ลงสนามเต็มเกมให้ไอซ์แลนด์ เกมที่ชนะเหนือ อันดอร์รา และจ่ายบอลให้ทีมในลูกที่สอง (จากลูกเปิดฟรีคิก) เขาช่วยให้ไอซ์แลนด์เข้าเล่นฟุตบอลยูโร ยู21 ปี 2011 ในรอบสุดท้าย โดยทีมชนะสก๊อตแลนด์ด้วยประตูรวม 4-2 (เกมที่สองเขายิงสองประตูในครึ่งหลัง ทำให้ทีมชนะในเกมนั้น 2-1)

วันที่ 13 ตุลาคม 2014 กิลฟี่ ยิงได้สองประตู (หนึ่งในนั้นเป็นลูกโทษ) เกมที่ไอซ์แลนด์ พบ เนเธอร์แลนด์ ในฟุตบอล ยูโร 2016 รอบคัดเลือก และโปรแกรมที่พบกันอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ อัมสเตอร์ดัม อารีน่า เขายิงประตูจากจุดโทษ หลังจากที่ เกรกอรี่ ฟาน เดอ วีล ทำฟาวล์เบียร์เคียร์ บียาร์นาสัน

กิลฟี่ ติดทีมไอซ์แลนด์ ไปเล่นฟุตบอลยูโร 2016 วันที่ 18 มิถุนายน เขายิงประตูตีเสมอ ฮังการี 1-1 ที่สนามสต๊าด เวโลโดรม

เดือนพฤษภาคม 2018 กิลฟี่ มีชื่อเล่นให้ทีมชาติไอซ์แลนด์ 23 คนที่ไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดยในรอบแบ่งกลุ่ม ที่พบโครเอเชีย เขายิงลูกโทษนาที 76 แต่ทีมก็แพ้ 1-2 และตกรอบในทัวร์นาเม้นต์นี้

ระดับทีมชาติของกิลฟี่