การคัมแบ็กทีมชาติเพื่อขับเคลื่อนทีมใหม่ของตำนานนักเตะแต่ละยุค !

เปเล่ (บราซิล)

เปเล่ (บราซิล)

ตำนานลูกหนังเจ้าของฉายา “ไข่มุกขำ” เขาคือสุดยอดกองหน้าระดับตำนานที่ได้รับการบันทึกสถิติว่าเป็นนักเตะที่ยิงประตแตะหลักพันได้สำเร็จอย่างเป็นทางการ และ FIFA ยังให้การรับรองอีกด้วยเปเล่นั้น เคยมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเล่นให้กับทีมชาติบราซิลนั่นก็คือในฟุตบอลโลก 1958 ที่สวีเดนเป็นเจ้าภาพ โดยที่เขาเองก็ติดทีมไปในฐานะดาวรุ่งอายุน้อยที่สุดในทีม ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น แถมยังยิงได้มากถึง 5 ประตูในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว และได้แชมป์โลกครั้งแรกร่วมกับทีมชาติในปีดังกล่าวแต่จากนั้นในฟุตบอลโลก 1962 เปเล่บาดเจ็บหนักจากการโดนแข้งฝั่งตรงข้ามไล่เตะเขาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม จนสุดท้ายฟุตบอลโลกครั้งดังกล่าว เปเล่ลงเล่นไม่ได้เกือบทั้งทัวร์นาเมนต์ เลยเป็นตัวของ การินช่า ปีกพ่อมดของบราซิลที่โชว์สุดเทพทั้งยิงทั้งจ่ายจนพาบราซิลป้องกันแชมป์โลกไว้ได้อีก 1 สมัย และต่อมาในฟุตบอลโลก 1966 เปเล่ในวัย 25 ปีโดนเตะเดี้ยงอีกเช่นเคย แถมบราซิลยังตกรอบแรกแบบไม่น่าเชื่อ และจากนั้น เปเล่ ก็ได้ประกาศเลิกเล่นให้กับทีมชาติบราซิลทันที เพราะทนไม่ไหวกับการที่เขาเล่นไม่ออก และยังตกเป็นเป้าให้นักเตะอีกฝ่ายไล่ยำเขาจนบาดเจ็บหนัก แต่แล้วในปี 1970 เม็กซิโกได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ตัวของเปเล่ตัดสินใจหวนกลับมาเล่นให้กับทีมชาติบราซิลอีกครั้ง และเขาเองก็ระเบิดฟอร์มอันยอดเยี่ยมได้เมื่อในปี 1958 หรือเมื่อ 12 ปีก่อน โดยเปเล่ในวัย 29 ปี โชว์ฟอร์มสะเด่า ยิง 1 จ่าย 1 ในนัดชิงชนะเลิศ พาบราซิลคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ได้สำเร็จ !

ดิเอโก้ มาราโดน่า (อาร์เจนติน่า)

ดิเอโก้ มาราโดน่า (อาร์เจนติน่า)

มาราโดน่าสมัยยังมีชีวิตอยู่และยังเล่นให้กับทีมชาติอาร์เจนติน่านั้น เขามีโอกาสลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 4 สมัยด้วยกัน แต่ว่าตัวของมาราโดน่ากลับรู้สึกหมดไฟในการเล่นให้กับทีมชาติไปตั้งแต่หลังจบศึกฟุตบอลโลก 1990 ซึ่งอาร์เจนติน่าไม่สามารถป้องกันแชมป์โลกไว้ได้ โดยพวกเขาโดนเยอรมัน คู่ปรับเก่าจากนัดชิงชนะเลิศปี 1986 ถอนแค้นได้สำเร็จ 1-0 ตลอดปี 1991 และปี 1992 ทีมชาติอาร์เจนติน่าไม่มีชายนามว่า ดิเอโก้ มาราโดน่า สวมเสื้อหมายเลข 10 คาดปลอกแขนกัปตันทีมนำทัพพวกเขาเลย แม้ว่าในปี 1991 พวกเขาจะได้แชมป์โคปา อเมริกา มาครองก็ตาม และในปี 1993 อาร์เจนติน่าจวนเจนจะตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ก็ได้ตัดสินใจไปตามตัวของ มาราโดน่า กลับมาเป็นจอมทัพให้กับทีม และในการคัมแบ็กสู่ทีมชาติในรอบ 3 ปีของมาราโดน่าก็ช่วยพวกเขาได้ไปเล่นฟุตบอลโลก 1994 ได้สำเร็จ

ซีเนอดีน ซีดาน (ฝรั่งเศส)

ซีเนอดีน ซีดาน (ฝรั่งเศส)

ซีดานในสมัยที่ยังพีคนั้น เขาเองก็เป็นสุดยอดนักเตะที่เคยหมดไฟในการเล่นให้กับทีมชาติมาแล้วเช่นกัน โดยในฟุตบอลยูโร 2004 ฝรั่งเศสลงแข่งขันในฐานะแชมป์เก่าจากปี 2000 และซีดานเองก็ทำหน้าที่เพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 ได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงไป 3 ประตูในทัวร์นาเมนต์ที่โปรตุเกสเป็นเจ้าภาพ แต่พวกเขากลับมาตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบสุดช็อก ด้วยการโดนทีมชาติกรีซยุคเน้นอุดยกทีมแล้วสวนกลับเปรี้ยงเดียว 1-0 จนทำให้ฝรั่งเศสร่วงตกรอบไปในทันหลังจบทัวร์นาเมนต์ ซีดาน ประกาศอำลาทีมชาติทันที … แต่ทว่าในช่วงปี 2005 สถานการณ์ของฝรั่งเศสไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทีมชาติฝรั่งเศสภายใต้การทำทีมของ เรย์มงด์ โดเมเนค ทำท่าว่าจะต้องตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2006 จนสุดท้ายนั้น โดเมเนค ก็ได้ไปกล่อมให้เหล่าสตาร์หลายๆคนจากทีมชุดทำศึกยูโร 2004 กลับมาช่วยทีม ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ซีดาน จะได้กลับมาสวมเสื้อหมายเลข 10 และคาดปลอกแขนกัปตันทีมชาติอีกครั้ง ซีดานตกลง และช่วยทีมผ่านรอบคัดเลือกไปเล่นฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมันได้สำเร็จ แถมยังโชว์ฟอร์มดุจเทวดา พาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แต่ก็ดันมาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามตอนช่วงต่อเวลาพิเศษ ปิดฉากอาชีพค้าแข้งไปแบบเศร้าๆ