กอนซาโล่ อิกวาอิน (Gonzalo Gerardo Higuain) ศูนย์หน้าอาร์เจนไตน์ ฉายา เอล ปิปิต้า

กอนซาโล่ อิกวาอิน

กอนซาโล่ เกราร์โด้ อิกวาอิน เกิดวันที่ 10 ธันวาคม 1987 เป็นนักเตะชาวอาร์เจนตินาที่เล่นฟุตบอลอยู่กับ เชลซี ในอังกฤษ โดยเขาถูกยืมตัวมาจาก ยูเวนตุส และติดทีมชาติอาร์เจนตินา

ชื่อเล่นของเขาคือ เอล ปิปิต้า หรือ ปิป้า พ่อของเขาชื่อ ฮอร์เก้ เป็นนักฟุตบอลเก่าด้วย กอนซาโล่ อิกวาอิน เกิดที่ฝรั่งเศส แต่ได้เป็นพลเมืองอาร์เจนตินาเมื่อปี 2007 ซึ่งเวลานี้เขาถือสองสัญชาติ แรกเริ่มเดิมทีเขาเล่นกับสโมสร ริเวอร์เพลท ในอาร์เจนตินามาก่อน และย้ายมาที่ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร ที่สเปนเขาได้แชมป์ลาลีกา กับ เรอัล มาดริด สามครั้ง และยิงได้ 107 ประตูจากเกมลีก 190 นัด เข้ายายไปร่วมทีม นาโปลี ด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร เมื่อเดือนกรกฎาคม 2013 ขณะที่ได้แชมป์โคปป้า อิตาเลีย ตั้งแต่ฤดูกาลแรกและยังได้ดาวซัลโวโดยยิงประตูเทียบเท่า จิโน่ รอสเซ็ตติ ที่ปัจจุบันอายุ 87 ปี ด้วยการยิงประตูสูงสุดในหนึ่งฤดูกาล โดยเมื่อเขายิงประตูที่ นาโปลี ได้เยอะ ฟอร์มของเขาก็ไปเข้าตาของ ยูเวนตุส และได้ย้ายไปเล่นในทีมยักษ์ใหญ่แห่งตูริน ด้วยค่าตัว 90 ล้านยูโรเมื่อปี 2016 เป็นการย้ายของนักเตะอเมริกาใต้ที่แพงที่สุด (จนกระทั่ง เนย์ม่าร์ ย้ายมาเปแอสเช เมื่อปี 2017) การย้ายทีมของเขาได้รับเงินค่าเหนื่อยสูงสุดของทีมจากอิตาลี (จนกระทั่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาทำลายสถิตินี้เมื่อปี 2018 ตอนที่ย้ายมา ยูเวนตุส) และเขายังย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงที่สุดภายในประเทศอิตาลีเอง (ย้ายจาก นาโปลี มา ยูเวนตุส) เขาชนะเลิศฟุตบอลถ้วย ฟุตบอลลีก ทั้งสองฤดูกาลแรกที่มาตูริน และปี 2017 เขาพาทีมถึงรองชิงชนะเลิศแต่ว่าแพ้ต่อ เรอัล มาดริด ต่อมาปี 2018 เขาย้ายแบบยืมตัวไปอยู่ที่ เอซี มิลาน และปี 2019 ก็ย้ายแบบยืมตัวไปที่ เชลซี

อิกวาอิน ติดทีมชาติอาร์เจนตินา ตั้งแต่ ปี 2009 เขาได้ลงเล่นฟุตบอลโลกสามครั้ง และรายการโคปป้า อเมริกาสามครั้ง ช่วยให้อาร์เจนตินาจบรองแชมป์โลกเมื่อปี 2014 และแชมป์โคปป้า อเมริกา ปี 2015 และ โคปา อเมริกา เซนเตนาริโอปี 2016

ชีวิตในวัยเด็ก ของปิปิต้า

ชีวิตในวัยเด็ก ของปิปิต้า

อิกวานอิน เกิดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1987 ที่เมืองแบรสต์ ประเทศฝรั่งเศส เป็นลูกชายของนักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินา ชื่อฮอร์เก้ อิกวาอิน เขาเล่นกับสโมสร แบรสต์ เป็นที่แรก และเขาก็มีเชื้อสายบาสก์ตามพ่อของเขา เขาย้ายออกจากฝรั่งเศสเมื่อมีอายุได้ 10 เดือน โดยที่พูดฝรั่งเศสไม่ได้เลย แต่ว่าเขาได้สิทธิ์เป็นพลเมืองของฝรั่งเศสและต่อมาก็ได้สิทธิ์เป็นเพลงเมืองอาร์เจนตินาด้วย โดยเขาขอยื่นสิทธิ์ในเดือนมกราคม 2007 เขามีพี่ชายสองคนคือ นิโกลัส และ เฟเดริโก้ ที่ต่อมาย้ายไปเล่น MLS ลีก กับ โคลัมบัส ครูว์ ในตำแหน่งกองหน้า และน้องชายอีกหนึ่งคน ที่ชื่อ เลาตาโร่

สโมสรอาชีพ ตั้งแต่เริ่มอาชีพค้าแข้ง

สโมสรอาชีพ ตั้งแต่เริ่มอาชีพค้าแข้ง

ริเวอร์เพลท

อิกวาอิน ออกสตาร์ทเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนกับ ริเวอร์เพลท ที่ได้ลงสนามเกมแรกแพ้ต่อ จิมนาเซีย เอสกริม่า วันที่ 29 พฤษภาคม 2005 วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2006 เขายิงประตูแรกในลีกเป็นเกมที่ชนะ 3-1 เหนือแบนฟิลด์ เขาจบฤดูกาล 2015/16 ด้วยการยิง 5 ประตูจาก 12 นัด

ซึ่งเขาได้แข่งฟุตบอลซูเปอร์คลาสิโก้ พบ โบค่า จูเนียร์ วันที่ 8 ตุลาคม 2006 ผู้จัดการทีม ริเวอร์เพลท ในเวลานั้นคือ ดาเนียล พาสซาเรลล่า ได้ตั้งว่า “เขาเป็นอนาคตใหม่ของทีม” และ “เกิดมาเพื่อเป็นซูเปอร์สตาร์” อย่างแท้จริง ปีนั้นเขายิงได้ 10 ประตูจาก 17 นัด

เรอัล มาดริด

ฤดูกาล 2006/07

เดือนธันวาคม 2006 ทีมจากสเปน เรอัล มาดริด เซ็นสัญญาคว้าตัว อิกวาอิน ด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร จาก ริเวอร์เพลท เขาได้ลงสนามเกมแรกวันที่ 11 มกราคม 2007 เกมที่พบ เรอัล เบติส เป็นเกมโคป้า เดล เรย์ รอบสองที่เมือง เซบีย่า ซึ่งสามวันต่อมาเขาก็ได้ลงสนามฟุตบอลลีกเกมที่พบ เรอัล ซาราโกซ่า ที่สนามเหย้า เขายิงประตูได้มากมายและแอสซิสต์บอลให้เพื่อนร่วมทีมได้ด้วย เขายิงประตูแรกให้ เรอัล เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เป็นเกมที่พบ แอตเลติโก้ มาดริด เกมมาดริด ดาร์บี้ เกมนั้นเสมอกัน 1-1 ที่สนามบิเซนเต้ กัลเดร่อน ระหว่างฤดูกาลแรกที่เขาอยู่กับทีม เขาเล่นได้ดีก็จริงแต่ว่าสิ่งที่ขาดไปก็คือจำนวนประตูที่ยิงได้น้อยเกินไป

ฤดูกาล 2007/08

ระหว่างฤดูกาล 2007/08 อิกวาอิน เล่นได้ดีขึ้นและยิงประตูได้ดีกว่าฤดูกาลแรก เขายิงประตูแรกในนาทีสุดท้ายเกมที่ชนะ โอซาซูน่า 2-1 ซึ่งทำให้ มาดริด คว้าแชมป์ลาลีกาเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน สี่วันต่อมา เขายิงประตูที่สามชนะ บาร์เซโลน่า 4-1 ในเกมเอลกลาสิโก้ ประตูนั้นเขายิงได้หลังจากที่ลงสนามมาเป็นตัวสำรองเพียง 57 วินาที

ฤดูกาล 2008/09

อิกวาอิน ได้โอกาสลงสนามมากขึ้นเนื่องจากสตาร์ชาวฮอลแลนด์ รุด ฟาน นิสเตลรอย เจ็บ เดือนสิงหาคม 2008 เขายิงประตูชัยให้ มาดริด เกมที่ชนะ บาเลนเซีย ในซูเปอร์คัพ เอสปันย่า ต่อมาเขายิงคนเดียวสี่ประตูเกมที่ชนะ มาลาก้า 4-3 จากฟอร์มของเกมนี้ทำให้เขาได้ถูกเรียกเข้าสู่ทีมชาติ เพราะว่าเขานำเป็นดาวซัลโวเคียงข้างกับ ซามูเอล เอโต้ ของ บาร์เซโลน่า วันที่ 21 เมษายน 2009 อิกวาอิน เล่นได้ดีแมตช์ที่พบ เกตาเฟ่ และยิงประตูในนาที่สุดท้าย พา เรอัล มาดริด ชนะ 3-2 ทำให้มีแต้มจี้ติดทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในฟุตบอลลีก ชื่อของเขาได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงในโลกของฟุตบอล เขาจบฤดูกาลด้วยการยิง 22 ประตูจาก 24 เกมในทุกรายการ เป็นซูเปอร์สตาร์ของลีกเคียงข้าง ดิเอโก้ ฟอร์ลัน ดาบิด บีย่า และ เธียร์รี่ อองรี

ปิปิต้า เรอัล มาดริด

ฤดูกาล 2009/10

เขาได้กลายมาเป็นดาวซัลโวของทีมที่ 27 ประตู จาก 29 นัด โดยยังได้เป็นรองดาวซัลโวของฟุตบอลลาลีกาด้วย เป็นรองเพียง ลิโอเนล เมสซี่ เพื่อนร่วมชาติแต่ว่าก็ยิงมากกว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าชาวสวีเดน ขณะที่เพื่อนร่วมทีมของเขา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ทำได้ดีเช่นกัน ฤดูกาลนี้เขายิงสองประตูแรกในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้ และยิงแฮตทริกให้ทีมได้เป็นครั้งที่สอง

ฤดูกาล 2010/11

เดือนมิถุนายน 2010 มาดริด ขยายสัญญากับ อิกวาอิน ออกไปจนถึงปี 2016 วันที่ 23 ตุลาคม 2010 เขายิงประตูที่ 200 ให้ มาดริด เกมที่ชนะ ราซิ่ง ซานตาเดร์ 6-1 วันที่ 4 พฤศจิกายนปีเดียวกัน เขายิงประตูที่ 700 ในการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีกของทีม

สัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม 2010 เขาบาดเจ็บที่หมอนรองเอว แพทย์แนะนำให้เขาต้องผ่าตัด วันที่ 5 มกราคม 2011 มาดริด ประกาศว่าเขาเข้ารับการผ่าตัด หน่วยงานแผนกศัลยกรรมประสาทของมหาวิทยาลัย นอร์ธเวสเทิร์น ยูนิเวอร์ซิตี้ ของเมืองชิคาโก ภายใต้คำสั่งของ ดร. ริชาร์ด เฟสเลอร์ เขาเริ่มต้นผ่าตัดวันที่ 11 มกราคม และเขาต้องหายจากสนามฟุตบอลไปสี่เดือน โดยแบ่งเป็นช่วงที่ผ่าตัดสองเดือน และฟื้นฟูร่างกายอีกสองเดือน, วันที่ 23 เมษายน 2011 เขายิงแฮตทริกเกมที่ชนะ บาเลนเซีย ที่สนามเมสตาย่า สเตเดี้ยม 6-3 ทำให้เขายิงประตูที่ 8 ในเกมที่พบ บาเลนเซีย เขายังจ่ายบอลให้ คาริม เบนเซม่า และ กาก้า ในเกมนั้นด้วย เป็นเกมที่เขาสมควรได้ แมน ออฟ เดอะ แมตช์อย่างแท้จริง

ฤดูกาล 2011/12

วันที่ 2 ตุลาคม อิกวาอิน ยิงแฮตทริกของฤดูกาลเกมที่ออกไปเยือน เอสปันญอล และชนะ 4-0 จากนั้นอีก 13 วันเขายิงประตูเกมที่ชนะ เบติส 4-1 เขายิงประตู 3-1 และ 4-1 ในเกมที่พบ แอตฯ มาดริด ใน มาดริด ดาร์บี้ วันที่ 26 พฤศจิกายน วันที่ 31 มีนาคม 2012 เขายิงประตูที่ 100 ให้มาดริด เกมที่พบ โอซาซูน่า จบฤดูกาลทีม ราชันชุดขาว ได้แชมป์ลาลีกา เขายิงได้ 22 ประตูมากกว่าเพื่อนร่วมทีม คาริม เบนเซม่า และพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังเป็นนักเตะที่ทีมขาดไม่ได้

ฤดูกาล 2012/13

วันที่ 29 สิงหาคม 2012 เขายิงประตูแรกเกมที่ชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 ในศึกซูเปอร์โคปา เด เอสปันย่า เลกที่สอง และทำให้ มาดริด คว้าแชมป์แรกของฤดูกาล เขายิงประตูแรกในฟุตบอลลีก เกมที่พบ บาเลนเซีย ทีมที่เขาถูกโฉลก เขายิงประตูตั้งแต่นาทีที่ 10 เกมนั้นจบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 เขายิงประตูอีกครั้งเกมที่แพ้ เกตาเฟ่ 2-1 ที่โคลอมเซียม อัลฟองโซ่ เปเรซ ที่ มาดริด ออกสตาร์ทฤดูกาลได้ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 39 ปี

มาดริด มาเยือน มายอร์ก้า วันที่ 28 ตุลาคม 2012 เขายิงได้สองประตูและแอสซิสต์สองประตูเกมนั้น เรอัล ชนะ 5-0 วันที่ 23 กุมภาพันธ์เขายิงประตูที่ 100 ในฟุตบอลลาลีกา เมื่อยิงประตูนาทีที่ 88 พาทีมเก็บชัยเหนือ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า 2-1

วันที่ 1 มิถุนายน 2013 เป็นนัดสุดท้ายของทีมเขายิงประตูแรกในเกมที่ชนะ โอซาซูน่า 4-2 และจากนั้นเขาก็สิ้นสุดการเล่นที่ มาดริด เป็นเวลา 7 ปี

อิกวาอิน นาโปลี

นาโปลี

เขาเป็นที่ต้องการของ นาโปลี และ อาร์เซน่อล สุดท้าย อิกวาอิน ตัดสินใจอยู่นานว่าจะมาทีมไหนดี ซึ่งหนังสือพิมพ์ก็คิดว่าเขาจะย้ายมาที่ อาร์เซน่อล ก่อนที่ประธานสโมสรของ นาโปลี ที่ชื่อ ออเรลิโอ เด ลอเรนติส จะเจรจากับเขาโดยตรง พร้อมกันนั้น นาโปลี ยังดึงตัว เปเป้ เรน่า จาก ลิเวอร์พูล ได้ด้วย เขาเซ็นสัญญากับ นาโปลี 5 ปีด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร วันที่ 27 กรกฎาคม นาโปลี ออกมายืนยันว่าทีมได้คว้าตัวเขามาร่วมทีมแล้ว โดยจะสวมเสื้อหมายเลข 9 ให้ทีม

ฤดูกาล 2013/14

วันที่ 10 สิงหาคม 2013 เขาลงสนามนัดแรกเกมปรีซีซั่นที่พบ เบนฟิก้า อิกวาอิน ยิงประตูแรกให้สโมสรและทีมก็ชนะ 2-1 วันที่ 25 สิงหาคม เขาลงสนามในฟุตบอลเซเรีย อา เกมนั้น นาโปลี ชนะ โบโลญญ่า 3-0 สัปดาห์ต่อมาเขายิงประตูแรกได้ในเกมที่ชนะ 4-2 เกมเยือน คิเอโว่ เขายิงประตูให้ทีมในอีกสองนัดต่อมา เกมที่ชนะ อตาลันต้า ที่สนามเหย้าและเกมพบ มิลาน ที่ซานซิโร่

วันที่ 18 กันยายน อิกวาอิน ยิงประตูในฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกให้ นาโปลี เกมที่ชนะ 2-1 เหนือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่สนามตาดิโอ ซาน เปาโล เขายิงประตูเกมที่ชนะ มาร์กเซย์ และ อาร์เซน่อล แต่ นาโปลี ก็ไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งๆที่ชนะสี่จากหกแมตช์

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2014 อิกวาอิน ยิงสองประตูเกมที่ นาโปลี ชนะ 3-0 เหนือ โรม่า ในฟุตบอลโคปป้า อิตาเลีย สุดท้ายทีมผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวมสองนัดที่ 5-3 วันที่ 13 เมษายน เขายิงแฮตทริกแรกเกมที่ชนะ ลาซิโอ้ 4-2 และต่อมาเขาคว้าโทรฟี่แรกกับสโมสรวันที่ 3 พฤษภาคม ลงสนาม 70 นาทีเกมที่มีชัยเหนือ ฟิออเรนติน่า เกมโคปป้า อิตาเลีย เป็นปีที่เขาประสบความสำเร็จกับทีมเมื่อยิงได้ 24 ประตูจาการลงสนามทุกรายการ 46 นัด

ฤดูกาล 2014/15

วันที่ 26 ตุลาคม 2014 อิกวาอิน ยิงแฮตทริกเกมที่ชนะเหนือ เฮลลาส เวโรน่า 6-2 เกมซูเปอร์โคปป้า อิตาเลียน่าที่พบ ยูเวนตุส ที่โดฮา กาตาร์ วันที่ 22 ธันวาคม เขายิงประตูตีเสมอให้ทีมทั้งสองครั้ง และต้องมายิงลูกโทษตัดสิน ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในคนที่ยิงลูกโทษเข้าและพาทีมคว้าแชมป์ได้ วันที่ 12 มีนาคม 2015 นาโปลี กลับมาชนะได้หลังจากเป็นฝ่ายตามหลังก่อน ชนะ ดินาโม มอสโก 3-1 เกมเลกแรกของฟุตบอลยูโรป้าลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เกมสุดท้ายของฤดูกาลภายใต้กุนซือ ราฟา เบนิเตซ เขายิงได้สองประตูแต่พลาดลูกโทษเกมนั้น นาโปลี แพ้ ลาซิโอ้ 4-2 ทำให้พลาดโอกาสที่จะไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก

ฤดูกาล 2015/16

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2015 อิกวาอิน ยิงประตูที่ 200 ในฐานนักฟุตบอลอาชีพ โดนเขายิงประตูเดียวเกมที่ชนะ อูดิเนเซ่ และเป็นประตูที่เก้าในฟุตบอลลีก และเป็นประตูที่เจ็ดติดต่อกันในการเล่นที่ซาน เปาโล, สามสัปดาห์ต่อมาเขายิงได้สองประตู ซึ่งใช้เวลาห่างกันเพียง 64 วินาที เกมที่ทีมชนะ อินเตอร์ มิลาน ทำให้พวกเขาขึ้นเป็นจ่าฝูงครั้งแรกในรอบ 25 ปี

อิกวาอิน ยิงได้สองประตูเกมที่ นาโปลี ชนะ ซาสซูโอโล่ 3-1 วันที่ 16 มกราคม 2016 ทำให้ทีมฉีกหนีทีมรองจ่าฝูง 4 แต้ม ประตูที่สองของเกมนั้นเป็นลูกที่ 20 ในฤดูกาลด้วย จากนั้นเขายิงประตูที่ 30 ในฟุตบอลเซเรียอาเกมที่ออกไปเยือนเกมแพ้ อูดิเนเซ่ 3-1 เขาถูกใบแดงไล่ออกในเกมนั้น จากนั้นทำให้เขาต้องถูกแบนสี่นัด จากการที่โดนสองใบเหลืองโดนแบนหนึ่งเกม แต่ว่าเกมนั้นเขาไปผลักผู้ตัดสิน มัสซิมิเลียโน่ เออร์ราติ ทำให้ต้องถูกแบนและโดนปรับเงิน 20000 ยูโรด้วย วันที่ 15 เมษายนวันที่เขาพ้นโทษแบน เพราะว่าคณะกรรมการพิจารณาลดโทษให้แบนเขาแค่สามนัด

วันที่ 14 พฤษภาคม อิกวาอิน ยิงแฮตทริกเกมที่เปิดบ้านชนะ โฟรซิโนเน่ 4-0 เป็นเกมสุดท้ายของฤดูกาล และเขายิงได้ 36 ประตูเทียบเท่ากับ จิโน่ รอสเซ็ตติ ที่ทำได้เมื่อฤกาล 1928/29 และไม่มีผู้เล่นคนไหนที่ยิงได้มากกว่า 20 ประตูในฤดูกาลนั้นเลย โดยรองดาวซัลโวเป็น เปาโล ดิบาล่า ที่ตามมาห่างๆ

อิกวาอิน ยูเวนตุส

ยูเวนตุส

ฤดูกาล 2016/17

หลังจากที่มีข่าวเรื่องการย้ายทีม วันที่ 26 กรกฎาคม2016 เขาก็ได้ย้ายมาทีมคู่แข่งแย่งแชมป์เซเรียอา ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 90 ล้านยูโร ซึ่งเป็นค่าตัวที่สูงที่สุดในเวลานั้น และเป็นการย้ายทีมที่แพงที่สุดในสโมสรอิตาลีด้วยกัน สามวันต่อมาเขากล่าวว่าเหตุที่ต้องย้ายเพราะมีเรื่องขัดแย้งกับท่านประธาน ออเรลิโอ เด ลอเรนติส

วันที่ 20 สิงหาคม อิกวาอิน ยิงประตูชัยเกมที่ชนะ ฟิออเรนติน่า ในบ้าน 2-1 วันที่ 10 กันยายน เขายิงประตูเกมที่ชนะเหนือ ซาสซูโอโล่ 3-1 , วันที่ 29 ตุลาคม เขายิงประตูชัยเหนือ นาโปลี ทีมเก่าแต่ว่าเขาไม่ได้แสดงอาการดีใจ เกมนั้นยูเว่ เปิดบ้านชนะ 2-1 ต่อมาวันที่ 5 เมษายน 2017 เขายิงได้สองประตูเกมที่ นาโปลี เล่นในโคปป้าอิตาเลียรอบเซมิไฟนัล พา ยูเวนตุส ผ่านเข้าชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 5-4 จากนั้นก็มาแพ้ในรอบชิง 3-2 เกมนั้นเขาเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูให้ ยูเวนตุส ได้มากกว่า 20 ประตู นับตั้งแต่ยุคของ จอห์น ชาร์ลส์ และ โอมาร์ ซิวอรี่ (เมื่อฤดูกาล 1957/58) เขายังยิงประตูใส่ คิเอโว่ ,วันที่ 15 เมษายน เขายิงสองประตูเกมที่ชนะ เปสคาร่า เป็นประตูที่ 200 ในฟุตบอลลีกยุโรปของเขา ,วันที่ 3 มิถุนายน เขาได้ลงสนามเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรองชิงชนะเลิศ กับ มาดริด แต่ว่าทีมต้องแพ้ด้วยสกอร์ 4-1 โดยเกมนั้น มาริโอ มานด์ซูคิช ยิงประตูตีเสมอเป็น 1-1 ก่อนที่จะแพ้ในเกมดังกล่าว

ฤดูกาล 2017/18

วันที่ 28 ตุลาคม 2017 เขายิงได้สองประตูเกมที่มีชัยเหนือ มิลาน 2-0 ประตูแรกเป็นประตูที่ 100 ของเขาในฟุตบอลเซเรีย อา ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนที่สองต่อจาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ยิงประตูได้มากกว่า 100 ประตูสำหรับฟุตบอลของทวีปยุโรปในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา

เขาลงสนามในเกมรุกให้ ยูเวนตุส มากขึ้น และในฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกเขาก็พาทีมเก็บชัยเหนือ สเปอร์ 4-3 ในรอบ 16 ทีม ซึ่งเกมแรกที่ตูริน วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2018 เขายิงได้สองประตูตั้งแต่สิบนาทีแรกของเกม (ประตูที่สองเป็นจุดโทษ) และเมื่อ ยูเว่ ได้ลูกโทษอีก เขาก็ยิงพลาดก่อนที่จะจบเกมครึ่งแรก เกมนั้น ยูเว่ เสมอทำให้เขาถูกวิจารณ์จากสื่อมวลชน แต่อย่างไรก็ตามเกมนั้นเสมอกันที่ตูริน 2-2 ดูเหมือนว่า สเปอร์ จะกุมความได้เปรียบไปก่อน แต่ว่าเกมที่สองวันที่ 7 มีนาคม เขาช่วยให้ ยูเวนตุส พลิกกลับมาชนะได้ 2-1 ทั้งที่ถูกยิงประตูนำก่อนที่สนามเวมบลีย์ โดยเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ให้ทีมก่อนที่ ดิบาล่า จะยิงประตูชัยในอีกสามนาทีต่อมา ส่ง ยูเวนตุส เข้ารอบควอเตอร์ไฟนัล

ฤดูกาล 2018/19 (ครึ่งฤดูกาลแรก)

ย้ายทีมแบบยืมตัวไปที่ มิลาน วันที่ 2 สิงหาคม 2018 อิกวาอิน เซ็นสัญญาย้ายไป มิลาน ด้วยการยืมตัวหนึ่งปี จากการประกาศอย่างเป็นทางการของสโมสร ยูเวนตุส มิลาน จ่ายเงินในการยืมตัวที่ 18 ล้านยูโร (สำหรับครึ่งฤดูกาลแรก) ซึ่ง มิลาน ต้องจ่ายเงิน 36 ล้านยูโรหากว่า ลงเล่นครบทั้งฤดูกาล

ฤดูกาล 2018/19 (ครึ่งฤดูกาลหลัง)

ย้ายไป เชลซี วันที่ 23 มกราคม 2019 เชลซี เซ็นสัญญาคว้าตัว กอนซาโล่ อิกวาอิน ด้วยการเซ็นสัญญาแบบยืมตัวช่วงที่เหลือของฤดูกาล 2018/19 ซึ่งเขาได้มาร่วมงานกับ เมาริซิโอ ซาร์รี่ อีกครั้ง ที่เขาเคยลงเล่นภายใต้ ซาร์รี่ ที่ นาโปลี เมื่อฤดูกาล 2015/16 ห้าวันต่อมา เขาลงสนามเกมแรกเกมที่ชนะ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 3-0 ในฟุตบอลเอฟเอคัพรอบสี่ ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เกมแรกในฟุตบอลลีกเป็นเกมที่ปราชัยต่อ บอร์นมัธ ที่สนามวิตัลลิตี้ 4-0 เกมต่อมาพบ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ ที่ชนะ 5-0 เขายิงสองประตูแรกให้ สิงโตน้ำเงินคราม ด้วย

ปิปิต้า ในทีมชาติ

ปิปิต้า กับเกมทีมชาติ

อิกวาอิน เป็นนักเตะคนที่สามที่เกิดนอกประเทศอาร์เจนตินาได้ลงเล่นให้ทีมฟ้าขาวในฟุตบอลโลก ต่อจาก เปโดร อาร์ริโก้ ซัวเรซ และ คอนสแตนติโน่ อูร์เบียต้า โซซ่า ตอนแรกเขาปัดที่จะลงเล่นให้ทั้งสองชาติ เพราะว่าเขาตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกเล่นให้ชาติไหนดี สุดท้ายเขาเลือกอาร์เจนตินา โดยเขาได้ลงสนามให้ทีมชาติเป็นครั้งแรกในฟุตบอลโอลิมปิกเกมกระชับมิตรกับ กัวเตมาลา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2008 เขายิงได้สองประตูเกมนั้น อาร์เจนตินาชนะ 5-0 แต่ว่าฟีฟ่าก็ไม่ได้รับรองว่าเกมนั้นเป็นเกมระดับ A แมตช์ของทีมชาติ

ฟุตบอลโลก 2010

อิกวาอิน ได้รับเลือกจาก ดิเอโก้ มาราโดน่า ที่เป็นเฮดโค้ชในเวลานั้นให้ติดทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ เกมรอบคัดเลือกกับ เปรู และ อุรุกวัย เขายิงประตูแรกเกมที่ลงสนามเต็มเกม เขายิงประตูนาที 49 ที่ชนะ เปรู ในวันที่ 10 ตุลาคม 2009 จากนั้นเขาได้มีชื่อติดทีมไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้ายเขายิงแฮตทริกเกมที่ชนะ เกาหลีใต้ 4-1 ในรองแบ่งกลุ่มนัดที่สอง ซึงเขาเป็นนักเตะคนที่สามที่ยิงแฮตทริกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายต่อจาก กิลเยร์โม่ สตาบิเล่ ปี 1930 และ กาเบรียล บาติสตูต้า ปี 1994 และเขาเป็นนักเตะคนแรกที่ทำได้นับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา เขายิงประตูเกมที่ชนะเม็กซิโก 3-1 พาทีมผ่านเข้ารอบสองโดยยิงได้สี่ประตู ซึ่งปีนั้นเขาได้รองดาวซัลโวของฟุตบอลโลก 2010 ด้วย

2011 โคป้า อเมริกา

เขาได้ติดทีมชาติอาร์เจนตินาในยุคของกุนซือ เซอร์จิโอ บาติสต้า ไปเล่นฟุตบอล โคป้า อเมริกา ที่บ้านตัวเอง เขาต้องผนึกกำลังกับ คาร์ลอส เตเวซ ในตำแหน่งกองหน้าคู่ อาร์เจนตินาผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์โดยเป็นที่สองของกลุ่มต่อจากโคลอมเบีย เขาได้ลงเล่นเกมกับอุรุกวัยในรอบควอเตอร์ไฟนัลที่ ซานตาเฟ่ เขายิงประตูตีเสมอนาที 17 โดยโหม่งบอลจากการเปิดของ ลิโอเนล เมสซี่ ผ่านผู้รักษาประตู เฟอร์นานโด มุสเลร่า ต่อมาเขายิงประตูได้แต่ว่าเป็นลูกล้ำหน้า อิกวาอิน ได้ยิงลูกโทษตัดสินแต่บอลไปชนเสา และทีมก็ต้องแพ้ด้วยสกอร์ 4-5

ปี 2011-14

วันที่ 8 ตุลาคม 2011 เขายิงแฮตทริกได้ในเกมที่ชนะชิลี 4-1 , วันที่ 2 มิถุนายน 2012 เขายิงประตูที่สองในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เขายิงประตูที่สองของทีม และแอสซิสต์อีกหนึ่งประตูเกมที่ชนะเอกวาดอร์ 4-0 จากนั้นวันที่ 7 กันยายน 2012 เขายิงประตูที่สองเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้และแอสซิสต์หนึ่งประตูเช่นกัน เกมที่ชนะปารากวัย 3-1 , วันที่ 11 กันยายน เขายิงประตูตีเสมอเปรู 1-1 ที่ลิม่า

วันที่ 22 มีนาคม 2013 เขายิงสองลูกเกมที่ชนะ เวเนซุเอล่า 3-0 ทำให้เขาขึ้นนำดาวซัลโวของฟุตบอลโลก โซนอเมริกาใต้ (รอบคัดลือก) ที่ 9 ประตู เขาเป็นดาวซัลโวอันดับสามของโซนอเมริกาใต้ ต่อจาก ราดาเมล ฟัลเกา และ เมสซี่-ซัวเรซ

ฟุตบอลโลก 2014

ฟุตบอลโลก 2014

เขามีชื่อติดทีมฟุตบอลโลก 2014 ใน 23 คน ซึ่งฟุตบอลโลก 2014 จัดขึ้นที่บราซิล เขาได้ลงสนามในครึ่งหลังเกมที่อาร์เจนตินาชนะบอสเนีย-เฮอร์เซโกวิน่า ที่สนามเอสตาดิโอ มาราคาน่า เขายังจ่ายบอลให้ เมสซี่ ไปยิงประตูชัย เขามีชื่อเป็นสิบเอ็ดคนแรกเกมที่พบ อิหร่าน ในรอบสองที่เบโล่ ฮอริซอนเต้ , วันที่ 5 กรกฎาคม เขายิงประตูโทนพาทีมเอาชนะเบลเยียม 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงพวกเขาต้องพบเยอรมันที่มีผู้รักษประตู มานูเอล นอยเออร์ ที่ท็อปฟอร์มมากในเวลานั้น ซึ่งจากการจ่ายบอลพลาดของเพื่อนร่วมทีมทำให้ โทนี่ โครส หลุดเข้าไปยิงประตูและลูกนั้นก็ไม่ล้ำหน้า ทำให้เยอรมันคว้าแชมป์โลก 2014 ส่วน ฟ้าขาว อกหักได้เพียงแค่รองแชมป์ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาที

โคป้า อเมริกา 2015

อาร์เจนตินาใช้ เซอร์จิโอ อเกวโร่ กุนเป็นกองหน้าเพียงลำพังจากกองหน้าทั้งสามคนของทีม และ อิกวาอิน ได้ลงสนามเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม โคป้า อเมริกา 2015 นัดที่พบ จาเมก้า ที่สนามวิน่า เดล มาร์เกมนั้นจบลงด้วยชัยชนะนัดที่ 50 ของเขากับทีมเขายิงประตูชัยนาทีที่ 11 จากการผ่านบอลของ อังเกล ดิ มาเรีย ส่งให้อาร์เจนตินาผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม , วันที่ 30 มิถุนายน เขายิงประตูสุดท้ายเกมที่ชนะ ปารากวัย 6-1 (หลังจากที่ลงสนามมาแทนกุน เพียงแค่ สองนาที) วันที่ 4 กรกฎาคม เขาเป็นหนึ่งในสองนักเตะอาร์เจนตินาที่ยิงลูกโทษไม่เข้าเกมที่แพ้ต่อชิลีในฟุตบอลโคป้า อเมริกา 2015 โดยยิงบอลข้ามคาน ระหว่างนั้นเขาถูกวิจารณ์ถึงโอกาสยิงประตูอย่างหนักเพราะว่าเขาไม่สามารถยิงบอลที่เอเซเกล ลาเวซซี่ เปิดบอลเข้ามาได้

โคป้า อเมริกา เซนเตนาริโอ

ฟุตบอลรายการนี้จัดขึ้นปี 2016 เพื่อเป็นการฉลองการก่อตั้งคอนเมโบลครบรอบ 100 ปี เขาถูกเรียกติดทีมภายใต้กุนซือ เกราร์โด้ มาร์ติโน่ โดยเขาลงเล่นในตำแหน่งกองหน้า วันที่ 18 มิถุนายน เขายิงได้สองประตูเกมที่ชนะ เวเนซูเอล่า 4-1 รอบควอเตอร์ไฟนัล อีกสามวันต่อมายิงสองประตูเกมที่ชนะอเมริกา 4-0 รอบรองชนะเลิซ ต่อมานัดชิงชนะเลิศ ต้องพบชิลีเกมจบลงที่ 0-0 ทั้ง 120 นาที เกมนั้นเขาถูกวิจารณ์อย่างมากว่าใช้โอกาสเปลืองและไม่ค่อยนิ่งนัก เกมนั้น ฟ้าขาว ได้แค่รองแชมป์เพราะว่าแพ้ดวลจุดโทษต่อ ชิลี 2-4

ฟุตบอลโลก 2018

อาร์เจนตินาไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียด้วยความไม่พร้อมเป็นอย่างยิ่ง อิกวาอิน ยิงได้เพียงแค่ลูกเดียวจากการลงสนาม 9 เกม และเขาก็ไม่ได้เป็นสิบเอ็ดผู้เล่นตัวจริงของทีมด้วย เดือนพฤษภาคม 2018 อิกวาอิน ติดทีมชาติอาร์เจนตินาภายใต้การคุมทีมของ ฮอร์เก้ ซามเปาลี เขาได้ลงสนามทั้งสามเกมรอบแรกแต่ว่ายิงประตูไม่ได้เลย และรอบ 16 ทีมสุดท้ายทีพบฝรั่งเศส ทีมฟ้าขาว ก็ตกรอบแพ้แบบหมดรูป 4-3 ตกตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย

สไตล์การเล่นของ อิกวาอิน

สไตล์การเล่น

เขาเป็นกองหน้าตัวเป้าที่ทำงานหนักเล่นตำแหน่งเดียวกับ คาริม เบนเซม่า (นักเตะชาวฝรั่งเศส-แอลจีเรีย) เขาเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในยุคนี้ และเขามีความสามารถในการถล่มประตูสูงมาก เขาเป็นคนที่ใช้โอกาสเปลืองยิงประตูในกรอบเขตโทษได้ดีมาก ซึ่งส่วนสูงไม่มากนัก แต่ว่ามีสายตาเฉียบแหลม และแข็งแกร่ง เขามีความอันตรายในลูกกลางอากาศ และยังมีเทคนิคการเล่นขั้นสูง เขาเล่นบอลได้เข้าขากับเพื่อนร่วมทีม เป็นตัวเก็บบอลก็ได้ และจ่ายบอลให้นักเตะคนอื่นก็ได้ เขามีการเคลื่อนที่ในเกมรุกที่ชาญฉลาด มีความเร็วและเหมาะที่จะเล่นเกมรุกแบบโต้กลับ บางครั้งเราอาจจะเห็นเขาเงียบทั้งเกมแต่เมื่อมีโอกาสเขาสามารถส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้ โดยเฉพาะการเล่นเป็นทีมต้องชื่นชมเขาอย่างมาก (เขาเป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัวด้วย) ด้วยสไตล์การเล่นแบบนี้เขาจึงเหมาะกับกองหน้าแบบ false-9 หรือกองหน้าหมายเลข 9 เป็นอย่างยิ่ง

มีคนนำเขาไปเปรียบกับ เฮอร์นาน เครสโป และ กาเบรียล บาติสตูต้า ด้วย แต่ว่าเขามีข้อเสียที่ยิงประตูได้น้อยเกินไป ซึ่งบางครั้งในเกมที่สำคัญและมีความหมายทั้งในสโมสรและทีมชาติเขามักจะเล่นไม่ออกก็มี ยกตัวอย่างเช่นรายการชิงชนะเลิศของฟุตบอลถ้วยทั้งกับ มาดริด นาโปลี ยูเวนตุส และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เขาพลาดโอกาสทองบ่อยครั้งในเกมกับทีมชาติอาร์เจนตินาเมื่อปี 2014 ในฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศและฟุตบอลโคป้า อเมริกา และ โคป้า อเมริกาเซนเตนาริโอ ก็เช่นกัน

คำยกย่อง

อิกวาอิน เป็นซูเปอร์สตาร์ในระดับที่ควรยกย่องเทียบเท่า ลิโอเนล เมสซี่ โดยเขาได้ขึ้นปกเกมฟีฟ่า 2015 ของค่าย EA Sports ด้วย

กอนซาโล่ อิกวาอิน กองหน้าที่สูง 1.86 เมตร เขาเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องคนหนึ่งในเวลานี้ แต่มีปัญหาคือในเกมระดับชาติเขามักจะเล่นไม่ค่อยออกทำให้เขายังไม่ได้รับรางวัลส่วนตัว เช่น รางวัลบัลลงดอร์ เขาเป็นกองหน้าที่เล่นเพื่อทีมอย่างแท้จริง เขาไม่ได้จ้องแต่จะยิงประตูอย่างเดียว หากว่าเพื่อนร่วมทีมยืนอยู่ตำแหน่งที่ดีกว่า เขาก็พร้อมที่จะส่งบอลให้ เขาเล่นมาแล้วกับหลายสโมสรทั้ง ริเวอร์เพลท เรอัล มาดริด นาโปลี ยูเวนตุส เอซี มิลาน และล่าสุดคือ เชลซี ด้วยอายุ 31 ปีของเขา ทำให้ความว่องไวของเขาลดลงไป แต่เรื่องประสบการณ์ที่มีมากขึ้นเป็นกองหน้าที่ไว้ใจได้เรื่องการยิงประตู

เขาเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวและไม่มีข่าวอื้อฉาวนอกสนามมากนัก การที่เขาย้ายมาอยู่ เชลซี ก็ต้องการร่วมงานกับนายเก่า เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่เหมือนกับมีคู่มือการใช้งานเขาอยู่ อิกวาอิน จะกลับมายิงประตูได้มากมายอีกครั้งเหมือนสมัยที่อยู่ นาโปลี หรือไม่ โดยเขายิงให้ เชลซี ไปแล้ว 2 ประตูจาก 3 นัดที่ลงสนาม หากว่าเขาทำผลงานได้ดี เชลซี ก็พร้อมที่จะเซ็นสัญญายืมตัวเขาต่อไปอีกก็เป็นได้

คำยกย่อง