กองกลางเจ้าพ่อ ลูกฟรีคิก ฆวน มาตา [Juan Mata]

กองกลางเจ้าพ่อ ลูกฟรีคิก ฆวน มาตา [Juan Mata]

Juan Manuel Mata García หรือ ฆวน มาตา เกิดวันที่ 28 เมษายน 1988เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวสเปน เล่นฟุตบอลตำแหน่งกองกลาง บางครั้งสามารถขยับไปเล่นปีกได้ ปัจจุบันลงเล่นให้กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ และเป็นนักเตะทีมชาติสเปน เริ่มต้นฟุตบอลกับทีมเยาวชนของเรอัล มาดริด โดยลงเล่นให้ทีม เรอัล มาดริด คาสติลย่า ในฤดูกาล 2006-07 ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม บาเลนเซีย ในช่วงหน้าร้อนปี 2007 โดยลงเล่นให้กับทีมบาเลนเซีย 174 นัด ใน 4 ฤดูกาล ต่อมาเดือนสิงหาคม 2011 เชลซีเซ็นสัญญาไปร่วมทีมด้วยค่าตัวราวๆ 28 ล้านยูโร และปีแรกที่ร่วมทีมเชลซี ทีมก็คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก และ เอฟเอ คัพ ปีต่อมา ได้แชมป์ ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน ลีก กับเชลซี ทำให้เขาและเฟอนานโด ตอเรส เป็นนักตะทีมชาติสเปนที่ได้แชมป์ แชมป์เปี้ยนลีก, ยูโรป้า ลีก, ฟุตบอลโลก, และ แชมป์ฟุตบอลยูโร ด้วยกัน หลังจากเชลซี เปลี่ยนผู้จัดการทีมเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ เขาก็ถูกขายให้กับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคม 2014 ด้วยค่าตัว 37.1 ล้านปอนด์ มาตา ติดทีมชาติสเปนมาทุกระดับช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นทีมชาติชุดเยาวชน ยู16, ยู17, ยู19, ยู20, ยู21, โอลิมปิค และทีมชาติชุดใหญ่ ทำประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ในเกมส์ที่ เจอกับเอสโตเนีย ในฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ มีชื่อในชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010

ช่วงเริ่มต้น

มาตา เกิดที่ town of Bugos พ่อของเขาคือ Juan Manuel Mata Rodriguezเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เล่นตำแหน่งกองหน้า ให้กับทีม Burgos CF ในช่วงปี 1980-1990 เวลาว่างมาตาชอบเล่นปิงปอง ซึ่งเป็นกีฬาที่เขาเล่นตอนเล็ก ตอนที่ย้ายมาอยู่กับทีมเชลซี เขาก็ชอบท่องเที่ยวไปทั่วเมืองลอนดอน จนได้ฉายาว่า Johnny Kills ซึ่งก็คือชื่อของเขาที่แปลจากสเปนเป็นภาษาอังกฤษ

ระดับสโมสร

ช่วงเริ่มต้นอาชีพ

มาตา เริ่มต้นชีวิตฟุตบอล ด้วยการฝึกกับทีม เรอัล โอเวียโด ซึ่งเป็นสโมสรที่พ่อเขาลงเล่น เขาอยู่ที่นี่ 3 ปี พออายุ 15 ปี ย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของเรอัล มาดริด ที่ La Fabrica หลังจากนั้นก็ได้ลงเล่นให้กับทีม Cadete A , Juvenil C และ Juvenil A ทำได้สองประตูในลีก และสามประตูในฟุตบอลถ้วย Copa de Campeones และได้แชมป์ Spanish Juvenil Cup ฤดูกาล 2006-07 มาตาได้เล่นให้กับทีม เรอัล มาดริด คาสติลย่า โดยสวมเสื้อหมายเลข 34 ในทีมชุดใหญ่ และสวมเสื้อหมายเลข 28 ในทีม คาสติลย่า และทั้งๆที่ คาสติลย่า ตกชั้นหลังจบฤดูกาล แต่เขาก็ยังได้ดาวซัลโวอันดับสอง ด้วยจำนวน 10 ประตู รองจาก อัลวาโร่ เนเกรโด ที่ทำไป 18 ประตู

ปี 2007 มาตา ถูกปล่อยออกจากทีมเรอัล มาดริด และได้เซ็นสัญญาร่วมทีม บาเลนเซีย ในวันที่ 30 มิถุนายน 2007 โดยมาตา ได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของบาเลนเซีย วันที่ 20 มีนาคม 2008 เขาทำได้สองประตูในการพบกับบาร์เซโลน่า ในฟุตบอล โคปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศ ช่วยให้บาเลนเซีย เข้าไปชิงชนะเลิศกับ เกตาเฟ่ จบฤดูกาลแรก เขามีชื่อติดทีมเยาวชนยอดเยี่ยมที่ได้รับการโหวตจากแฟนบอลและนักเตะ

ปี 2008 มาตาทำประตูในการพบกับเรอัล มาดริด รายการ สเปน ซูเปอร์คัพ ช่วยให้บาเลนเซียชนะไปก่อนในนัดแรก 3-2 ก่อนจะมาแพ้ในนัดที่สอง 2-4 รวมสองนัด บาเลนเซีย แพ้ไป 5-6 เขาเริ่มต้นฤดูกาล 2008-09 ได้ดี ด้วยการเอาชนะทีม มายอร์ก้า 3-0 และยังทำประตูได้เกมส์ที่เจอกับโอซาซูน่า จากการเปิดบอลของ เดวิด บีย่า

25 กันยายน 2008 มาตาโชว์ฟอร์มได้ดี และมีส่วนช่วยให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูทั้งสองประตูในเกมส์ที่ชนะ มาลาก้า 2-0 สามวันต่อมา เขายังโชซ์ฟอร์มได้ดี ด้วยการทำ 1 ประตู และสร้างสรรค์เกมส์ให้เพื่อนทำประตูอีก 3 ลูก จบเกมส์ บาเลนเซีย เปิดบ้านเอาชนะ เดปอติโว่ ลา คอรุญญ่า 4-2 ในช่วงท้ายฤดูกาล มาตา ทำสองประตูสำคัญให้กับทีม คือ ทำได้ในเกมส์ที่เจอกับ สปอร์ตติ้ง กิฆ่อน 1 ประตู และเกมส์เจอกับเซบีญ่า 1 ประตู จบฤดูกาลเขาทำได้ 11 ประตู กับ 13 แอสซิสต์ น้อยกว่าเพียง ซาบี เฮอนานเดช ที่ทำได้มากที่สุดในลีก สองฤดูกาลต่อมา มาตาเป็นที่น่าจับตามองมากขึ้น เมื่อทำได้ 17 ประตู จากการลงเล่น 68 นัด ช่วยให้บาเลนเซียจบฤดูกาลด้วยอันดับที่สาม ที่สำคัญ วันที่ 10 เมษายน 2011 เขาทำได้ สองประตูในการพบกับทีมคู่ปรับอย่าง บียาร์เรอัล และช่วยให้บาเลนเซียชนะไป 5-0 วันที่ 9 พฤษภาคม กิลเล่ม บาลาเฆ้ ผู้สื่อข่าวชาวสเปน รายงานว่ามีทีมจากอังกฤษให้ความสนใจในตัว มาตา และจบฤดูกาลนั้นเขาได้รับรางวัล ผู้เล่นเยาวชนดีเด่น ที่โหวตโดย แฟนบอลและนักเตะ

เชลซี

บาเลนเซีย ตกลงรับข้อเสนอของเชลซี ในการซื้อตัว ฆวน มาตา

วันที่ 21 สิงหาคม 2011 บาเลนเซีย ตกลงรับข้อเสนอของเชลซี ในการซื้อตัว ฆวน มาตา ในราคา 23.5 ล้านยูโร และมาตาได้เซ็นสัญญากับเชลซีอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 สิงหาคม 2011 โดยเป็นการเซ็นสัญญา 5 ปีด้วยกัน ทำให้เขาได้เล่นทีมเดียวกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง เฟอนานโด ตอเรส โดย มาตาเผยว่าเขาตื่นเต้นมากๆที่จะได้เล่นกับตอเรส นอกจากนี้ตอเรสยังบอกเขาว่ามันจะดีมากๆที่ได้เล่นด้วยกันและเขาก็บอกกับครอบครัวและเพื่อนๆแบบนี้เช่นกัน

วันที่ 26 สิงหาคม 2011 ยอสซี่ เบนายูน ได้เสนอเสื้อหมายเลข 10 ให้กับเขา โดยเบนายูนบอกว่า เขาเหมาะกับหมายเลข 10 มากกว่า 15 และมันสำคัญมากๆถ้าเขาได้สวมมัน เขาอยากจะขอบคุณเบนายูนมากๆ เพราะเสื้อหมายเลข 10 มีนักเตะระดับตำนานใส่หลายคน ไม่ว่าจะเป็น โจ โคล, มาร์ก ฮิ้วส์, เอียน ฮัทชิงสัน และเทอรี่ เวนาเบิ้ล

ฤดูกาล 2011-12

มาตาได้ลงเล่นให้กับทีมเชลซีในวันที่ 27 สิงหาคม 2011 ในเกมส์ที่เจอกับ นอร์ริช ซิตี้ โดยลงมาในนาทีที่ 68 แทย ฟลอรองต์ มาลูด้า และทำประตูที่ 3 ให้กับทีมในช่วงท้ายเกมส์เป็นเชลซีที่ชนะไป 3-1 มาตา ได้ลงเล่นใน 11 คนแรกในเกมส์ที่ไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ วันที่ 10 กันยายน และเป็นเชลซีที่ชนะไป 2-1 วันที่ 14 กันยายน ลงเล่นในแชมป์เปี้ยนลีก เจอกับ เลเวอคูเซ่น และเป็นเชลซีชนะ 2-0 โดยมาตาทำได้ 1 ประตูในช่วงท้ายเกมส์

วันที่ 6 ตุลาคม 2011 มาตาทำแอสซิสต์ที่ 6,000 ของเชลซี โดยการเปิดบอลให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด โหม่งทำประตู และยังทำประตูจากระยะ 25 หลาด้วยตัวเอง ในเกมส์เปิดบ้านแพ้คู่ปรับร่วมเมืองอย่างอาร์เซน่อล 3-5

วันที่ 26 พฤศจิกายน เชลซีเจอกับวูล์ฟแฮมตัน มาตามีส่วนในการสร้างสรรค์เกมส์ให้เทอรี่และสเตอริดจ์ทำคนละ 1 ประตู ก่อนเขาทำอีก 1 ประตู ให้เชลซีชนะไป 3-0 และนัดที่เชลซีไปเยือนนิวคาสเซิ่ล มาตา ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมเมื่อช่วยให้เชลซีบุกมาชนะ 3-0

วันที่ 6 ธันวาคม 2011 เชลซีเจอกับอดีตทีมเก่าของมาตา อย่างบาเลนเซีย ในแชมป์เปี้ยนลีก และเป็นมาตา ทำ สองแอสซิสต์ให้ดร๊อกบาทำสองประตู ก่อนจะจบเกมส์ด้วยชัยชนะของเชลซี 3-0 ทำให้เชลซีผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มเป็นทีมแรก และศึกบ๊อกซิ่ง เดย์ มาตาทำประตูในเกมส์ที่เสมอกับ ฟูแล่ม 1-1 นอกจากนี้เขายังทำประตูใน เอฟเอ คัพ ได้เป็นครั้งแรกในเกมส์ที่ชนะ พอร์ทสมัธ ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

ในเกมส์ เอฟเอ คัพ รอบสี่ เชลซีไปเยือน ควีน พาร์ค เรนเจอร์ส มาตาทำประตูจากการยิงจุดโทษให้ทีมเอาชนะไป 1-0 วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2012 มาตา ทำประตูในเกมส์ที่เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-3 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ มาตา ทำ 1 ประตู ในเกมส์แชมป์เปี้ยนลีก รอบ 16 ทีมนัดแรก เชลซีไปเยือนนาโปลีและแพ้ไป 1-3 หลังจาก โรแบร์โต้ ดิ มัตติโอ เช้ามาเป็นโค้ชชุดใหญ่ของทีม มาตาก็ถูกขยับจากกองกลางตัวรุก ไปเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย โดยในเกมส์เอฟเอ คัพ รอบห้า มาตาพลาดจุดโทษ ทำให้ทีมเสมอกับ เบอร์มิงแฮม ก่อนที่นัดแข่งใหม่เป็นเชลซีที่ไปเยือนและชนะไป 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ รอบนี้เมื่อเชลซี ชนะเลสเตอร์ไป 5-3 วันที่ 7 เมษายน มาตาทำประตูที่ 11 ของตัวเองในเกมส์ที่เจอกับวีแกน แอธเลติค และเป็นเชลซีที่ชนะไป 2-1 ช่วยให้เชลซีได้สิทธิเล่นในแชมป์เปี้ยนลีก

วันที่ 15 เมษายน เชลซี ชนะ สเปอร์ส 5-1 ในฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศที่เวมบลีย์ มาตาทำ 1 ประตู และแอสซิสต์ให้รามิเรสและมาลูด้าทำประตู ทำให้เขามีสถิติในฟุตบอลเอฟเ คัพ ด้วยการทำ 4 ประตูและ 3 แอสซิสต์ มาตาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในฟุตบอลแชมป์เปี้ยนลีก รอบรองชนะเลิศที่เจอกับ บาร์เซโลน่า และช่วยให้ทีมเอาชนะได้ด้วยประตูรวม 3-2 ผ่านไปชิงชนะเลิศกับ บาร์เยิร์น มิวนิค ในวันที่ 9 พฤษภาคม

วันที่ 29 เมษายน มาตา แอสซิสต์ให้เฟอนานโด ตอเรส ทำประตูในศึกเวสต์ ลอนดอน ที่เชลซีถล่ม ควีน พาร์ค เรนเจอร์ส 6-1 ทำให้เขามีสถิติแอสซิสต์ 13 ประตูในพรีเมียร์ลีก ในเกมส์ เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ มาตา แอสซิสต์ ให้รามิเรสทำประตู ช่วยให้เชลซีชนะลิเวอร์พูล 2-1 ที่สนามเวมบลีย์ พร้อมรับตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยม วันที่ 10 พฤษภาคม มาตาได้รับรางวัล ผู้เล่นแห่งปีของสโมสร จากการโหวตของแฟนบอล โดยเขาถูกยกไปเทียบชั้นกับนักเตะตำนานสโมสรอย่าง เดนนิส ไวส์, จิอันฟรังโก โซล่า

วันที่ 19 พฤษภาคม 2012 ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก รอบชิงชนะเลิศ กับบาร์เยิร์น มิวนิค มาตาแอสซิสต์ให้ดิดิเย่ร์ ดร๊อกบา โหม่งทำประตู ในนาทีที่ 88 เกมส์นั้นต้องต่อเวลาพิเศษ และดวลจุดโทษ มาตาเป็นคงยิงคนแรกของเชลซี แต่ทาง มานูเอล นอยเออร์ เซฟได้ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเป็นเชลซีที่ชนะจุดโทษไป 4-3 คว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกเป็นครั้งแรกของเชลซี จบฤดูกาลมาตาทำสถิติฤดูกาลแรกกับเชลซี ด้วยการส่งบอลสำเร็จ 573 ครั้ง สร้างสรรค์เกม์ 66 ครั้ง สำเร็จ 61 ครั้ง และช่วนให้เชลซีคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้าวยสองรายการ ในพรีเมียร์ลีกทำได้ 14 แอสซิสต์ น้อยกว่า ดาวิด บีย่าของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำได้มากที่สุดอยู่ 6 ประตู

ฤดูกาล2012-13

มาตา พลาดลงเล่นให้เชลซีในช่วงพรีซีซั่นเนื่องจากลงเล่นให้กับทีมชาติสเปนชุด โอลิมปิคที่ลอนดอน หลังจากนั้นก็กลับมาลงเล่นให้เชลซีในเกมส์คอมมูนิตี้ชิลด์ ที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยลงเล่นในนาทีที่ 74 แทนดาเนียล สเตอริดจ์ วันที่ 22 กันยายน 2012 มาตาทำแอสซิสต์แรกของฤดูกาลในเกมส์ที่เจอกับ สโต๊ค ซิตี้ และเป็นเชลซีชนะ 1-0 และทำประตูแรกของฤดูกาลในเกมส์ที่เชลซี ชนะ วูล์ฟแฮมตัน 6-0 ในเกมส์ลีกคัพ รอบสาม หลังจากนั้น 4 วัน เขาทำประตูแรกของฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก จากการแอสซิสต์ของตอเรส ทำให้เชลซีไปเยือนอาร์เซน่อล และชนะไป 2-1

มาตาทำประตูแรก และประตูที่ 3 ให้เชลซีไปเยือนและชนะ นอร์ดเจลแลนด์ 4-0 เดนมาร์ก หลังจากนั้นก็ทำสองแอสซิสต์ให้เชลซีเอาชนะ นอร์ริช ซิตี้ 4-1 ในเกมส์ ลอนดอน ดาร์บี้ เชลซีไปเยือน สเปอร์ส ที่ไวท์ ฮาร์ตเลน มาตาทำ 2 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ ช่วยให้เชลซีชนะไป 4-2 และยังยิงฟรีคิกได้ในเกมส์ที่เจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่แพ้ไป 2-3 จบเดือนตุลาคม มาตาได้รางวันนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม หลังทำประตูได้ 3 ประตูในพรีเมียร์ลีก หลังจาก โรแบร์โต ดิ มัตติโอ ถูกไล่ออกในเกมส์ที่แพ้ยูเวนตุส 0-3 ในฟุตบอลแชมป์เปี้ยนลีก เชลซีก็แต่งตั้งราฟาเอล เบนิเตชเป็นผู้จัดการทีม และนัดแรกที่เจอกับ เวสต์แฮม มาตาก็ทำประตูได้ทันที แต่เกมส์นั้นเชลซีแพ้ไป 1-3 ในฟุตบอลแชมป์เปี้ยนลีก เชลซีเอาชนะนอร์ดเจลแลนด์ แต่ก็ตกรอบน๊อคเอ้าอยู่ดี ในเกมส์กับซันเดอร์แลนด์มาตาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมและทำประตูให้เชลซีชนะไป 3-1 หลังจากนั้น เชลซีก็ไปแข่งฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ที่ญี่ปุ่น โดยเข้าแข่งขันรอบรองชนะเลิศพบกับทีม มอนเตอเรย์ และเป็นมาตาทำประตูแรกก่อนที่เชลซีจะชนะไป 3-1 ผ่านไปชิงชนะเลิศกับทีม โครินเทียนส์ จากบราซิลเป็นเชลซีที่แพ้ต่อทีมจากบราซิลไป 0-1 หลังจากนั้นทีมก็กลับมาชนะ แอสตัน วิลล่า 8-0

วันที่ 22 ธันวาคม 2012 มาตา ต่อสัญญากับทีมออกไปถึงปี 2018 เกมส์บ๊อกซิ่งเดย์ เชลซีไปเยือน คาร์โรว์ โร้ด ของทีม นอร์ริช ซิตี้ ที่ชนะทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล ในรอบก่อนหน้า และเป็นมาตามาทำสุดยอดประตูในนาทีที่ 38 เมื่อยิงจากระยะ 25 หลาเข้าไป วันที่ 5 มกราคม 2013 มาตาแอสซิสต์ให้ เดมบา บา และอิวาโนวิช ส่งให้เชลซีชนะเซาแธมป์ตันไป 5-1 ในเอฟเอ คัพ มาตาทำประตูที่แปดในพรีเมียร์ลีก ในเกมส์ที่เจอกับอาร์เซน่อล และเป็นเชลซีที่เปิดบ้านเอาชนะไป 2-1

วันที่ 3 มีนาคม 2013 มาตาลงเล่นเป็นเกมส์ที่ 100 ให้เชลซี จากการลงเล่นเกมส์ที่เอาชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเยน 1-0 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันที่ 14 มีนาคม มาตาทำประตูแรกให้เชลซีชนะคู่แข่งอย่าง สเตอัว บูคาเรสต์ 3-1 วันที่ 19 เมษายน มาตาได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล PFA Players’ Player of the Year พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมอย่างเอแดน อาซาร์

วันที่ 15 พฤษภาคม 2013 มาตาโชว์ฟอร์มในยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบชิงชนะเลิสได้สุดยอด เมื่อเชลซีเจอกับ เบนฟิก้า จากโปรตุเกส และเป็นมาตาที่เปิดลูกเตะมุมให้อิวาโนวิช ทำประตูชัยได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ วันต่อมาเขาได้รับรางวัล นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเชลซี มาตาบอกว่า เขารู้สึกสุดยอดมากที่เชลซี และขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกคน โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เขาได้รับรางวัลนี้ เขาขอบคุณแฟนบอลที่สนับสนุนเขาเป็นอย่างดี

ฤดูกาล2013-14

ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ มาตาเป็นแค่ผู้เล่นสำรองเสียส่วนใหญ่ โดยมูรินโญ่ให้ออสการ์เล่นเป็นตัวสร้างสรรค์เกมส์ และมาตาต้องขยับไปเล่นด้านข้าง ในส่วนของเกมส์รับมากกว่า วันที่ 28 กันยายน 2013 มาตาถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง และแอสซิสต์ให้จอห์น เทอร์รี่ ทำประตูในเกมส์ที่เสมอ สเปอร์ส ไป 1-1 วันที่ 29 ตุลาคม เขาทำประตูแรกของฤดูกาลนี้ ในเกมส์ที่เอาชนะอาร์เซน่อล 2-0 มาตาสูญเสียตำแหน่งตัวจริงภายใต้การคุมทีมของมูรินโญ่ โดยลงเล่นเป็นตัวจริงเพียง 11 จาก 22 เกมส์ที่ได้ลงในพรีเมียร์ลีก มาตาทำได้ 33 ประตูกับอีก 58 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทุกรายการ 135 เกมส์ ใน 2 ฤดูกาลครึ่งกับเชลซี

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เชลซี ให้ตอบรับข้อเสนอซื้อตัว มาตา จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

วันที่ 24 มกราคม 2014 มูรินโญ่ บอกกับ เชลซี ให้ตอบรับข้อเสนอซื้อตัว มาตา จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเขาอนุญาตให้มาตา ไปตรวจร่างกายกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ หลังจากที่ตัวนักเตะยืนยันว่าต้องการย้ายทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ยืนข้อซื้อมาตา โดยมีค่าตัวในการย้ายทีมครั้งนี้ 37.1 ล้านปอนด์ หรือ 46 ล้านยูโร โดยเซ็นสัญญา 4 ปี มาตาได้ลงเล่นให้ต้นสังกัดใหม่ครั้งแรกในวันที่ 28 มกราคม 2014 ในเกมส์ที่เจอกับทีม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ และแอสซิสต์ให้เพื่อทำประตูก่อนที่จะเอาชนะไป 2-0 วันที่ 29 มีนาคม มาตาทำประตูแรกให้ทีมใหม่ได้สำเร็จในเกมส์ที่เอาชนะ แอสตัน วิลล่าไป 4-1 และทำได้อีก 2 ประตูในเกมส์ที่ไปเยือนและเอาชนะนิวคาสเซิ่ล 4-0 และอีกสองลูกในเกมส์ที่ชนะนอร์ริช ซิตี้ 4-0 และนัดสุดท้ายของฤดูกาลทำได้ 1 ประตูในเกมส์ที่เสมอเซาแธมป์ตัน 1-1 จบฤดูกาลมาตาทำได้ 6 ประตู เฉพาะในพรีเมียร์ลีก เนื่องจากไม่สามารถลงเล่นบอลถ้วยรายการต่างๆที่ลงเล่นให้เชลซีได้

ฤดูกาล2014-15

มาตาเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยสามารถทำประตูได้ตั้งแต่เกมส์ที่สองของฤดูกาล ที่เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 ที่สเตเดี้ยม ออฟไลท์ หลังจากนั้นก็ทำประตูได้ในเกมส์ที่เอาชนะทีมควีน พาร์ค เรนเจอร์ส 4-0 พร้อมกับการเข้ามาคุมทีมนัดแรกของ หลุยส์ ฟาน กาล หลังจากนั้นเขาพลาดลงสนามสองนัด เนื่องจากโค้ชใช้ เวย์ รูนีย์ฟาน เพอร์ซี่ และ ราดาเมล ฟาลเกา ในการเล่นเป็นตัวรุก หลังจากเวย์ รูนีย์ถูกใบแดง ไล่ออกจากสนามในเกมส์เจอกับเวสต์แฮม มาตาก็ได้กลับมาลงเล่นในตำแหน่งตัวจริงอีกครั้ง ในการเปิดบ้านเอาชนะเอฟเวอตัน 2-1 ที่โอบ แทรฟฟอร์ด โดยนัดนี้ มาตาแอสซิสต์ให้ อังเคล ดิ มาเรีย ทำประตู หลังจากนั้น มาตากทำประตูชัย ในการเปิดบ้านเจอกับคริสตัล พาเลช และสโต๊ค ซิตี้ หลังจากนั้นก็ได้ลงเล่นเป็นตัวสำรอง ก่อนจะกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งในเกมส์ที่ชนะ สเปอร์ส 3-0 โดยถูกเปลี่ยนตัวออกนาทีที่ 77 วันที่ 22 มีนาคม 2015 มาตาทำประตูจากลูกจักรยานอากาศ ให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะลิเวอร์พูลไป 2-1 โดยประตูนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคม 2015 นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกด้วย

ฤดูกาล2015-16

มาตาเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยการแอสซิตส์ในเกมส์ที่สองของฤดูกาล ในเกมส์ที่เจอกับแอสตัน วิลล่า เดือนกันยายน ถือเป็นเดือนที่น่าจดจำของเขา เมื่อเขาทำได้ 2 ประตู และอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 3 เกมส์ ในการเจอกับ ลิเวอร์พูล, เซาแธมตัน และซันเดอร์แลนด์ ทำให้เดือนนั้นมาตาได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนไปครอง วันที่ 2 มีนาคม มาตาได้รับโอกาสเป็นกัปตันทีมในการเจอกับ วัตฟอร์ด และเขาก็ทำประตูได้จากการยิงฟรีคิก วันที่ 6 มีนาคม มาตาทำประตูชัยให้ทีมเอาชนะ เวสต์บรอม 1-0 มาตาได้รับใบแดงใบแรกในการเล่นอาชีพ จากการทำฟาวล์แล้วได้รับใบเหลือง 2 ใบในเวลาห่างกันเพียง 3 นาที ในเกมส์กับเวสต์แฮม มาตาแอสซิสต์ ให้อองโทนี่ มาร์เที่ยลทำประตู ต่จบเกมส์เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่แพ้ไป 2-3

วันที่ 21 พฤษภาคม 2016 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ คริสตัล พาเลซ โดยเสมอกันในเวลา 1-1 ก่อนที่มาตาจะเปลี่ยนตัวลงมาแทน เจสเซ่ ลินการ์ด ในนาทีที่ 90 และเป็นมาตาที่มาทำประตูชัยให้ทีมในช่วงต่อเวลาพิเศษ ได้แชมป์เอฟเอ คัพ ในที่สุด

ฤดูกาล2016-17

หลังจากช่วงปิดฤดูกาล มาตาก็ได้ร่วมทีมกับ โชเซ่ มูรินโญ่ อีกครั้ง เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่งตั้งเขาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ วันที่ 7 สิงหาคม 2016 ในเกมส์คอมมูนิตี้ชิลด์ กับ มาตาถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน เจสเซ่ ลินการ์ด ในช่วงครึ่งหลัง หลังจากนั้นก็ถูกเปลี่ยนตัวกับ เฮนดริช มากีทยาน ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า เขามีปัญหากับผู้จัดการทีม หลังจากเกมส์นั้น เขาได้ลงเล่นเกมส์แรกของฤดูกาลในการเจอกับ บอร์นมัธ และทำประตูแรกในฤดูกาลได้จากความผิดพลาดของ ไซมอน ฟรานซิส วันที่ 29 ตุลาคม 2016 มูรินโญ่พักรูนีย์ และให้มาตา ลงเล่นเป็นกัปตันทีม ก่อนทำได้แค่เสมอ 1-1

ฤดูกาล2018-19

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2018 มาตา ทำประตูจากการยิงฟรีคิก ให้ทีมกลับมาชนะยูเวนตุส 2-1 ในฟุตบอล แชมป์เปี้ยนลีก รอบแบ่งกลุ่ม

ระดับทีมชาติ

มาตาช่วยให้สเปนคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน 2006 ชุดอายุไม่เกิน 16 โดยเขาเป็นผู้เล่นสำคัญของทีมและทำประตูน้อยกว่าดาวซัลโวที่เป็นเพื่อนร่วมทีมของเขา อัลเบอร์โต บูโน่ ที่ทำได้ 5 ประตู

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2007 ในทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 21 ปี เขามีรายชื่อลงเล่นเกมส์กระชับมิตร ในการเจอกับทีมชาติอังกฤษรุ่นเดียวกัน โดยมีเพื่อนร่วมทีมจากเรอัล มาดริดหลายคน ได้แก่ โรแบร์โต้ โซดาโต้, โซเซ่ มานูเอล จูราโด, เซอจิโอ ซานเชซ, มิกูเอล ตอเรส, เอสเตบัน กราเนโร และอันโตนิโอ เอดาน โดยมาตามีอายุ 18 ปี 10 เดือน

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2008 วินเซนเต้ เดล บอสเก้ เรียกมาตาติดทีมชาติชุดใหญ่ ในเกมส์อุ่นเครื่องที่เจอกับทีมชิลี วันที่ 28 มีนาคม 2019 เขาได้ลงสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก ในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่เอาชนะตุรกีไปได้ 1-0 ที่กรุงมาดริด โดยเขาลงมาเป็นตัวสำรองนาทีที่ 63 แทนที่ ดาวิด บีย่า เดือนมิถุนายน 2009 มาตา ติดทีมชาติชุดลุยศึก ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่น คัพ และเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ โดยเขาลงเล่นในเกมส์ที่ 2 ที่เจอกับ อิรัค และเปลี่ยนตัวลงมาแทน อัลแบร์โต้ ริเอร่า ในรอบรองชนะเลิศที่แพ้ สหรัฐอเมริกา

วันที่ 9 กันยายน 2009 มาตาทำประตูแรกในนามทีมชาติได้สำเร็จ ในเกมส์ที่เอาชนะเอสโตเนีย 3-0 ในฟุตบอลโลก ที่แอฟริกาใต้ และช่วยให้ทีมเอาชนะอาร์เมเนีย 2-1 โดยยิงประตูได้ 1 ประตูจากจุดโทษ นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มเขาลงมาแทน เฟอนานโด ตอเรส ในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ที่สเปนชนะ ฮอนดูรัสไป 2-0

ปี 2011 มาตากลับไปเล่นทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 21 ปี และช่วยให้สเปนได้แชมป์ ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ที่เดนมาร์ก พร้อมรับตำแหน่ง รองเท้าทองคำ ของรายการนี้ไปครอง มาตากลับมาติดทีมชาติชุดใหญ่อีกครั้งใน ยูฟ่า ยูโร 2012 และลงมาเป็นตัวสำรอง ทำประตูที่ 4 ในเกมส์นัดชิงชนะเลิศ ให้สเปนเอาชนะอิตาลี 4-0 ความแชมป์ไปครอง มาตามีชื่อในชุดโอลิมปิคปี2012 อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไป 3 นัด สเปนไม่สามารถผ่านไปเล่นรอบต่อไปได้

สไตล์การเล่น

มาตาเป็นนักเตะเชิงสูง เทคนิคดี และส่งบอลได้ยอดเยี่ยม ด้วยความสูง 5 ฟุต 7 นิ้ว เขามีความคร่องตัวสูง และมีมุมมองในการช่วยเพื่อนร่วมทีมได้ดี

ชีวิตส่วนตัว

เดือนพฤศจิกายน 2012 เขาและเพื่อนที่เล่นพรีเมียร์ลีก อย่าง ซานติ กาซอล่า และ มิชู ได้ร่วมกันซื้อสโมสร เรอัล โอเวียโด ซึ่งเป็นสโมสรเก่า มูลค่า 2 ล้านยูโร เพื่อให้สามารถลงเล่นในดิวิชั่นสามได้

เดือนสิงหาคม 2017 บทความ The Player’s Tribuune ได้เขียนถึงมาตา ที่แบ่งเงินค่าเหนื่อยส่วนหนึ่ง เข้าการกุศลในชื่อ Common Goal และเขายังเชิญชวนเพื่อนนักเตะอื่นๆมาร่วมการกุศลด้วยกัน