“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เสร็จสิ้นภารกิจการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่รายแรกของพวกเขาในช่วงซัมเมอร์นี้เรียบร้อยแล้ว ด้วยการจ่ายเงิน 1.3 ล้านปอนด์ คว้าตัว เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก กองหลังวันเดอร์คิด จาก ซโวลล์ ทีมในเอเรดิวิซี่ ลีก ฮอลแลนด์ ไปร่วมทีม
ฟาน เดน เบิร์ก อาจไม่ไช่ชื่อที่คุ้นเคยกับแฟนบอลเมืองผู้ดีมากนัก แต่เขาอยู่ในอันดับต้นๆ ในลิสต์นักเตะอนาคตไกลสำหรับสโมสรชั้นนำของยุโรปมาระยะหนึ่งแล้ว อาทิ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ที่จับตาดูเขาอย่างใกล้ชิด
ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ปาดหน้า บาเยิร์น คว้าตัว ฟาน เดน เบิร์ก ไปเสริมทัพ ซึ่งทำให้ “เสือใต้” ผิดหวังอย่างมาก โดยรายงานข่าวระบุว่า พวกเขายังคงโทรหาเอเย่นต์ของ กองหลังชาวดัตช์ แม้จะรู้ว่านักเตะกำลังตรวจร่างกายอยู่กับ “หงส์แดง” ก็ตาม
ขณะเดียวกัน อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ก็เตรียมคว้าตัว ฟาน เดน เบิร์ก ไปเป็นตัวแทนของ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ กองหลังกัปตันทีม ที่กำลังจะย้ายไปยัง ยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่ในกัลโช เซเรีย อา อิตาลี แต่สุดท้ายนักเตะเลือกไปเล่นกับ ลิเวอร์พูล
โครงสร้างของข้อตกลงของ ลิเวอร์พูล กับ ซโวลล์ คล้ายกัน และถูกพูดถึงวิธีการเล่นที่ได้รับการยกย่องอย่างสูง ทั้ง 2 สโมสรต่าง ต่างตกลงกันในราคาที่เหมาะสม ซึ่งจะมีออฟชั่นค่าตัวเพิ่มเติมหาก ฟาน เดน เบิร์ก ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก
ปราการหลังวัย 17 ปี ได้รับการยกย่องว่าเขามีความสามารถในการเติบโตเป็นกองหลังที่โดดเด่นในระยะยาว และกลายเป็นแกนหลักในการจัดการแนวรับของ ลิเวอร์พูล ในอนาคตและคาดว่าเขาจะเข้าไปอยู่ในทีมของ คล็อปป์ ทันที
ดาวรุ่งชาวดัตช์ ได้เซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรกของเขาในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 ขณะมีอายุเพียง 16 ปีเขาได้รับคุณสมบัติในการฝึกซ้อมครั้งแรกของทีม และได้รับการเสนอชื่อในทีมชุดใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของสโมสรในการพัฒนาผู้เล่นของตัวเองสำหรับทีมระดับสูง
แผนรายละเอียดถูกเขียนขึ้นเพื่อความก้าวหน้าของ ฟาน เดน เบิร์ก โดย เบิร์ต เอ็บเบนส์ หัวหน้าโค้ชสถาบันเยาวชน ซโวลล์ และโค้ชที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง ดไวท์ โลเวเกส ผู้ซึ่งเป็นช่วยผู้จัดการทีม จอห์น ฟาน ชิป อีกด้วย
เจอราร์ด นิจ์กัม ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของ ซโวลล์ ระบุความว่า ฟาน เดน เบิร์ก มีศักยภาพสูงและไม่แปลกใจเลยที่เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามใน เอเรดิวิซี่ ลีก ในรอบ 60 ปี และเป็นคนที่เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนาม ซโวลล์
ก่อนการแข่งขันนั้น การเอาชนะ โกรนิงเก้น 2-0 ในเดือนมีนาคม 2018 ฟาน เดน เบิร์ก ที่ขึ้นมาจากทีมเยาวชน คุ้นเคยกับการเล่นตำแหน่ง เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ อย่างไรก็ตาม หลายเดือนหลังจากนั้น ซโวลล์ ได้เห็นหลักฐานที่เป็นรูปธรรมแก่พวกเขาว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์สามารถทำการทดสอบในเกมระดับอาวุโสได้
กองหลังดัตช์ เป็นตัวจริง 5 จาก 7 เกมสุดท้ายของซีซั่น 2017-18 ซึ่งรวมถึงฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในการแข่งขันที่ ซโวลล์ สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม 2-0 และทำให้เขามีชื่ออยู่ในทีมประจำสัปดาห์ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
โลเวเกส กล่าวว่า “เขาเป็นเด็กดี เราทุกคนดูเขาเติบโตขึ้น ในบางเกมเขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของเราบนสนาม เขาสูง มีความเร็ว มีความสามารถในการเล่นบอล และมีความเข้าใจลึกซึ้งกับแทคติค เขาเป็นดาวรุ่งที่ยอดเยี่ยม”
การจากไปของกุนซือ ฟาน ชิป ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นการส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงสำหรับ ฟาน เดน เบิร์ก ในทีม ซโวลล์ ยาป สตัม อดีตกองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาทำหน้าที่เทรนเนอร์ และแทบไม่ให้โอกาสเขาลงสนาม
ซามพ์โดเรีย กำลังจะคว้าตัว ฟาน เดน เบิร์ก ไปร่วมทีมในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ล้มเหลวเรื่องการตกลงค่าตัวกับ ซโวลล์ จากนั้น ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น ก็เข้ามาร่วมวงด้วย ก่อนที่จะเป็น “หงส์แดง” ได้ตัวเขาไปในท้ายที่สุด
ฟาน เดน เบิร์ก เคยกล่าวไว้ว่า “ซโวลล์ คือสโมสรของผมตั้งแต่สมัยเป็นเยาวชน ถ้าผมได้เล่นอยู่ตลอดเวลา ผมอาจจะพูดว่าผมจะเซ็นสัญญาฉบับใหม่ออกไป แล้วโอกาสที่ผมจะเล่นในฤดูกาลหน้าจะยิ่งใหญ่ขึ้นโดยอัตโนมัติ ตอนนี้ผมไม่รีบร้อน”
“โค้ชคนสุดท้ายที่ทำให้ผมมีโอกาสได้เล่นเป็นจำนวนมาก ถูกไล่ออกไปแล้ว เมื่อมีโค้ชคนใหม่เข้ามาคุณรู้ว่าสิ่งต่างๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ความจริงแล้วผมไม่ได้อยู่ในทีมเลย”
คำพูดเหล่านั้นจุดประกายให้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, อาแจ็กซ์ และ บาเยิร์น เร่งเครื่องเดินหน้าเจรจากับ ฟาน เดน เบิร์ก ซึ่งกำลังเข้าสู่ปีสุดท้ายกับ ซโวลล์ แต่ ลิเวอร์พูล ก็ชนะ
ดาวเตะเจ้าของความสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว เริ่มอาชีพเยาวชนของเขาด้วยการเป็นปีกซ้าย ก่อนจะกลับไปเป็นฟูลแบ็ค เนื่องจากมีความสามารถในการอ่านเกม และความคาดการณ์ที่เหนือกว่าคนอื่นอย่างเห็นได้จนสุดท้ายเขามาเล่นในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง
เดิร์ค มาเซลิส อดีตเพื่อนร่วมทีมของ ฟาน เดน เบิร์ก กล่าวว่า “คุณเห็นผู้เล่นอัจฉริยะที่เห็นสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นล่วงหน้า ซึ่งเขามีความเร็ว และแข็งแรงและปรับเปลี่ยนตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ในฐานะกองหลัง ผมพบว่า เขามีความแน่นอนมาก และประสานงานกับคนอื่นได้ดี มันไม่มีเหตุผลที่เขาได้ลงเล่นมากมาย อายุไม่สำคัญ มันเกี่ยวกับคุณภาพ”
“เขาสงบนิ่งมาก เขาครอบครองบอลค่อนข้างดี เขาอยากจะฝึกซ้อมกับ เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ เพื่อเพิ่มความสามารถของเขาในหัวใจของการป้องกัน สำหรับผม เวอร์จิล เป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกในขณะนี้ ดังนั้นผมคิดว่า ฟาน เดน เบิร์ก สามารถเรียนรู้มากมายจากเขา”
จุดแข็ง ความเร็วในการฟื้นตัวของ ฟาน เดน เบิร์ก และความสามารถพิเศษของเขาสำหรับการคาดการณ์ และหลีกเลี่ยงสถานการณ์อันตราย ทำให้ประทับใจ เดฟ ฟอล์โลว์ และ แบร์รี ฮันเตอร์ ทีมงานแมวมองของ ลิเวอร์พูล
ฟอล์โลว์ และ ฮันเตอร์ ซึ่งมีส่วนร่วมในการย้ายทีมจำนวน 3.5 ล้านปอนด์ ของ โจ โกเมซ กองหลังชาติอังกฤษ จาก ชาร์ลตัน ไปยังแอนฟิลด์ ในช่วงฤดูร้อนปี 2015 และทั้งคู่เห็นความคล้ายคลึงกันหลายประการในกรณีเดียวกับ ฟาน เดน เบิร์ก
ความสงบและความเป็นธรรมชาติในการครอบครองบอลของ ฟาน เดน เบิร์ก สะท้อนให้เห็นว่าเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ของเขา ซึ่งไม่รู้สึกผิดหวังเมื่อเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่อายุมากกว่ามีประสบการณ์ และเป็นปฏิปักษ์กับร่างกาย พวกเขายังระบุตำแหน่งที่ชาญฉลาดของเขา
จุดอ่อน เด็กปั้น ซโวลล์ คือ ลิเวอร์พูล ต้องการทำงานกับความสามารถทางอากาศของเขา และนี่คือพื้นที่ที่เขาอาจจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฝึกอบรมควบคู่ไปกับ ฟาน ไดจค์ เขาจะต้องเพิ่มทักษะจำนวนมาก ซึ่งเป็นกระบวนการที่ โกเมซ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์–อาร์โนลด์ ต้องผ่าน เมื่อพวกเขาบุกเข้าไปในทีมชุดแรก
นอกจากนี้ยังมีเครื่องหมายคำถามบางอย่างเกี่ยวกับความแข็งแกร่ง และความเข้มข้นของเขาในการเล่น แต่นั่นเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้เล่นอายุน้อยอย่าง ฟาน เดน เบิร์ก แต่เขาก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นและมาตรฐานที่สูงกว่า
แข้งชาวดัตช์ จะอยู่ตรงไหน เนื่องจากเขาอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น และจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับประเทศ ลีก และความต้องการใหม่ๆ ช่วงเวลาการย้ายเข้าของ ฟาน เดน เบิร์ก จึงคาดว่าเขาจะอยู่ในทีมชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ของ ลิเวอร์พูล ไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ฟาน เดน เบิร์ก จะฝึกซ้อมที่เมลวู้ดกับทีมชุดแรก และยังได้รับการพิจารณาว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ในการทัวร์พรีซีซั่นที่สหรัฐฯในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ โกเมซ ก็ทำแบบเดียวกันในช่วงฤดูกาลเดบิวต์ของเขาที่เมอร์ซีย์ไซด์
ฟาน เดน เบิร์ก กล่าวผ่าน เว็บไซต์ ลิเวอร์พูล ว่า “ระยะสั้นเป้าหมายของผม คืออยู่กับทีมชุดแรก พัฒนาตัวเอง เติบโตเป็นทีม และดูว่ามันจะไปอย่างไร ในระยะยาวผมต้องการเป็นตำนานที่นี่จริงๆ”
