คริสเตียน พูลิซิส ปีกดาวรุ่งทีมชาติสหรัฐอเมริกา ของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะตื่นขึ้นมาในเช้าวันจันทร์โดยรู้ว่า อะไรที่รอเขาอยู่ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีกับการเริ่มต้นซีซั่นใหม่ร่วมกับพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม”
หลังชอกช้ำจากการต้อนรับของฟุตบอลอังกฤษในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อ เชลซี บุกไปโดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถล่มแบบขาดลอย 4-0 ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด พูลิซิส ต้องมองไปข้างหน้า คือความสำคัญของความท้าทายของเขาตอนนี้ชัดเจน
ในช่วงเปิดตัว 32 นาทีกับ เชลซี ทีมใหม่ของ ดาวเตะวัย 20 ปี หลังจากที่เข้าย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 57.6 ล้านปอนด์ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยใช้เวลา 6 เดือนสุดท้ายของฤดูกาลยืมตัวที่ทัพ “เสือเหลือง”
ในเกมกับ แมนฯยูไนเต็ด พูลิซิส ถูกทิ้งให้ดวลกับ ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสของ “ปีศาจแดง” ในแดนกลาง ซึ่งทำให้เขาแทบหายไปจากเกม และไม่มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เกมรุกให้กับพลพรรค “สิงห์บลูส์”
ในขณะที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ เชลซี ได้ทำสถิติคุมทีมนัดเปิดตัวได้แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์กุนซือทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” ในรอบกว่า 40 ปี จนได้รับการมองว่ามันยากแค่ไหนสำหรับเขาที่จะสร้างความสำเร็จที่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์
พูลิซิส ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมที่ เชลซี พ่ายจุดโทษให้กับ ลิเวอร์พูล ในยูฟ่าซูเปอร์ คัพ รอบชิงชนะเลิศในอิสตันบูล ประเทศตุรกี ในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการประเดิมสนามด้วยการเป็น 11 ตัวจริงครั้งแรกของ กองกลางชาวสหรัฐฯ ในสีเสื้อ “สิงห์บลูส์”
อดีตตัวรุก ดอร์ทมุนด์ ไม่ได้เจอกับงานง่ายเมื่อต้องพบกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นแชมป์ยุโรปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ย้อนกลับไปในเกมกับ แมนฯยูไนเต็ด เขาพยายามอย่างหนักในการเผชิญหน้ากับ อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็คขวา “ปีศาจแดง” และในเกมกับ “หงส์แดง” เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่ากลัวอีกครั้งอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด ฟูลแบ็คดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ
ในวัย 20 ปี พูลิซิส ต้องการเวลาในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ของเขาอย่างชัดเจน และภายใต้การคุมทีมของ แลมพาร์ด เขาจะได้รับพื้นที่ในการปรับสภาพพัฒนาการ และตระหนักถึงศักยภาพที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของเขา แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเขา ก็คือสิ่งที่เขาไม่สามารถควบคุมได้ และนั่นไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่ดีนัก
ไม่ว่าจะถูกหรือผิดจะถูกเปรียบเทียบกับ เอเด็น อาซาร์ อดีตจอมทัพของ เชลซี เมื่อใดก็ตามที่เขาลงสนามในฐานะนักเตะ “สิงโตน้ำเงินคราม” ซึ่งโชคไม่ดีเมื่อพิจารณาว่าปีกชาวเบลเยี่ยมเกือบเคยพาสโมสรไปสู่แชมป์พรีเมียร์ลีก และได้รับรางวัลส่วนตัวอื่นๆ ก่อนจะย้ายไปยัง เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ด้วยค่าตัว 88.5 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
นี่คือทีม เชลซี ในช่วงการเปลี่ยนภาพที่ชัดเจนพร้อมผู้จัดการทีมคนใหม่ และอยู่ภายใต้แรงกดดันในการส่งมอบโครงสร้างใหม่ สำหรับ พูลิซิส ความท้าทายให้ความรู้สึกที่มากขึ้น เนื่องจากป้ายราคาค่าตัวของเขา และการจากไปของ อาซาร์
อาซาร์ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในแนวรุกของ เชลซี ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเป็นคนแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนร่วมทีม ในเกมพรีเมียร์ลีก 245 เกม ปีกเบลเยียม ทำประตูได้ 85 ประตู และแอสซิสต์ไปมากมายนอกจากนี้ เขายังสร้างความหวาดกลัวให้กับกองหลังฝ่ายตรงข้าม และทำให้ความเชื่อของเพื่อนร่วมทีมของเขามีอยู่เสมอในขณะที่เขาอยู่ในสนาม
เมื่อ เชลซี ผนึกข้อตกลงกับ พูลิซิส ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา พวกเขารู้ว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงของจุดศูนย์กลางของทีมที่น่าจะเกิดขึ้น อาซาร์ จะออกเดินทางไป มาดริด เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ด้วยการที่สโมสรโดนแบนจากตลาดนักเตะทั้ง 2 ครั้ง หลังจากที่ ฟีฟ่า สอบสวนว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” ซื้อนักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปีแบบผิดกฎ
แต่ พูลิซิส ไม่ได้ไปแทนที่ อาซาร์ โดยตรง นี่คือทีม เชลซี แบบใหม่ที่กำลังมุ่งสู่ทิศทางใหม่แทนที่จะพยายามทำเหมือนกับในฤดูกาลที่แล้ว โดยอดีตแข้ง ดอร์ทมุนด์ เป็นเด็กที่มีศักยภาพสูงในพรีเมียร์ลีก และน่าจะทำผลงานได้ดีในอนาคต
พูลิซิส อาจไม่ได้มีพรสวรรค์สูงเท่ากับ อาซาร์ แต่เขาก็มีสามารถในการรับมือกับความท้าทายทางกายภาพของฟุตบอลอังกฤษ และยังคงเป็นพรสวรรค์ที่ชัดเจนในการสร้างสรรค์เกมให้กับทีม มากกว่าจบสกอร์ด้วยตัวเอง
แน่นอนว่าการเปรียบเทียบกับ อาซาร์ นั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ เชลซี ได้เป็นเงินจำนวนมากจากการขาย ปีกชาวบลเยียมให้กับ มาดริด และแทนที่เขาด้วยเงินค่าตัวของ พูลิซิส ให้กับ ดอร์ทมุนด์ อีกจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความคุ้มค่าของพวกเขา
ในเกมกับ แมนฯยูไนเต็ด เมื่อ พูลิซิส ถูกส่งลงสนามแทนที่ของ รอส บาร์คลีย์ กองกลางชาวอังกฤษ ในนาทีที่ 58 โดย แลมพาร์ด นำปีกชาวเมริกันไปเล่นทางมุมกว้างด้านซ้ายเพื่อพยายามกดดัน 4 กองหลังของ “ปีศาจแดง” ให้มากขึ้น ซึ่งหากว่าเขาเป็นตัวที่อันตรายเมื่ออยู่ใกล้กรอบเขตโทษคู่แข่ง
แต่ แมนฯยูไนเต็ด ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะจัดการกับ พูลิซิส เพราะไม่จำเป็น เกมดังกล่าวผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยขณะที่ “ปีศาจแดง” เพิ่มความเร็ว และใช้ประโยชน์จากการขาดความสมดุลย์ของ เชลซี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อันโตนิโอ รูดิเกอร์ กองกลังทีมชาติเยอรมัน ได้รับบาดเจ็บไม่สามารถลงสนามได้
แมนฯยูไนเต็ด กระหน่ำไปอีก 3 ประตูอยร่างรวดเร็วแบบที่ เชลซี ไม่ทันตั้งตัว และ พูลิซิส แทบไม่มีส่วนร่วมใดกับเกมเลย นั่นคือสิ่งที่ แลมพาร์ด ต้องเร่งหาทางออกให้ดีที่สุดในช่วงเวลาต่อไปของซีซั่นที่เขาต้องเผชิญกับความกดดันอย่างหนัก
พูลิซิส จะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ มากขึ้น ซึ่งสนามที่เล็กกว่าจะทำให้เขามีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่เขาต้องสร้างความประทับใจให้กับเงื่อนไขของตัวเองก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเป็นเงาของ อาซาร์
อาซาร์ ยังเคยมีเกมที่ไม่โดดเด่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่เขาก็แก้ไขได้ในไม่ช้า โดยการมอบความช่วยเหลือครั้งใหญ่เมื่อมันมีความสำคัญ นั่นคือความท้าทายของ พูลิซิส ในทีม เชลซี ที่ต้องผ่านช่วงการเปลี่ยนแปลก มันอาจเป็นเรื่องที่ยาก ที่ปีกชาวอเมริกัน จะต้องได้รับอนุญาตให้เป็นตัวของตัวเองและสร้างผลกระทบต่อตนเองที่ทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม”
